เมื่อความต้องการพลังงานทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นและความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรง การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะระบบพลังงานอัจฉริยะสำหรับที่พักอาศัยที่ช่วยให้ครอบครัวต่างๆ มีอิสระด้านพลังงาน ซึ่งช่วยเพิ่มประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาว และทำให้การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนเป็นเรื่องที่ปฏิบัติได้จริงและเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน
SUNHOME ผู้นำระดับโลกจากประเทศจีนในด้านพลังงานอัจฉริยะสำหรับที่อยู่อาศัย จึงขยายธุรกิจสู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “อนาคตสดใสเริ่มต้นวันนี้” เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับทุกครัวเรือนในประเทศไทย
วินสัน จาว ประธานแบรนด์ ซันโฮม โกลบอล (SUNHOME Global) เปิดเผยว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์กำลังสร้างทั้งโอกาสทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืน โดยมีพลังงานสะอาดที่ฟื้นฟูได้เป็นหัวใจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลก ในฐานะแบรนด์เทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะสำหรับที่อยู่อาศัยระดับโลก เรามุ่งมั่นที่จะสร้างระบบพลังงานอัจฉริยะภายในบ้านที่ผสานรวมระบบพลังงานอัจฉริยะที่ประกอบด้วย Oasis Home, Woods Home และ Moss Home ที่รวมเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ (Photovoltaic, PV), ระบบกักเก็บพลังงาน, การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และการจัดการพลังงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และรองรับการออกแบบสำหรับที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน วิลล่าและอพาร์ตเมนต์
นอกจากนี้ ยังรองรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาและระเบียง เพื่อรองรับความต้องการด้านพลังงานของแต่ละแห่ง โดยมีหัวใจหลักคือ เทคโนโลยี ‘Power-Magic Cube’ ของ SUNHOME ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มพลังงานทดแทนที่ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและสามารถทดแทนได้ถึง 100% โดยแพลตฟอร์มนี้ประกอบด้วยสามองค์ประกอบหลัก คือ Ultimate cube ที่เน้นการผลิตและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ, Agile Cube ที่รวมเทคโนโลยีการปรับแต่งด้วยดิจิทัลอัจฉริยะ และ Harmonious Cube ที่นำเทคโนโลยีการรวมฉากแบบตามสถานการณ์มาใช้
“SUNHOME ต้องการเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้พลังงานที่ยั่งยืนของโลก บริษัทฯ จึงได้สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่ง รวมถึงข้อตกลง MOU กับธนาคารชั้นนำอย่าง ICBC (ประเทศไทย) ในฐานะพันธมิตรทางการเงิน พร้อมกับพันธมิตรด้านการขายหลัก เพื่อขยายการเข้าถึงโซลูชันพลังงานอัจฉริยะผ่านการจัดหาเงินทุนในรูปแบบใหม่ๆ พร้อมความเชี่ยวชาญในตลาดท้องถิ่น และเครือข่ายบริการที่ครบวงจรในระดับโลก” วินสัน จาว กล่าว
ทอม จาง รองประธานบริษัท SUNHOME Global กล่าวว่า “Sun” หมายถึง Sunlight หรือแสงอาทิตย์ที่เป็นพลังงานที่ทรงพลังที่สุดจากธรรมชาติและเป็นทรัพยากรสากล ขณะที่ “Home” คือพื้นฐานของเรา เป็นสถานที่ที่เราเกิด เติบโต และอาศัย “SUNHOME” จึงเป็นวิสัยทัศน์ของเราที่ต้องการนำพลังงานจากดวงอาทิตย์มาสู่ทุกครอบครัวและทุกบ้านอย่างอบอุ่น ผลิตภัณฑ์นี้จึงไม่ใช่แค่แบรนด์ที่เป็นคำมั่นสัญญาที่เราให้กับลูกค้า เราพร้อมรับประกันและดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
สำหรับการติดตั้งระบบพลังงานบนหลังคาและผนังอาคารที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะเรื่องของการป้องกันการรั่วซึมและความปลอดภัย ทีมงานของเรามีประสบการณ์สูงและมีมาตรฐานที่รัดกุมในการออกแบบและติดตั้งเพื่อให้มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าจะมีความปลอดภัยสูงสุด และนำระบบที่มีประสิทธิภาพมาใช้เพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงการจัดการระบบไฟฟ้าให้จ่ายไฟได้เสถียรและปลอดภัย
ทั้งนี้ เราได้พัฒนามาตรฐานการติดตั้งที่ครอบคลุมรายละเอียดทุกขั้นตอน มาใช้ในการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ที่มีโครงสร้างเลื่อนหรือเอียง พร้อมนำแพลตฟอร์มดิจิทัล อย่าง ChatGPT มาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าทุกกระบวนการติดตั้งเป็นไปอย่างถูกต้องและสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้เรายังทำงานร่วมกับบริษัทประกันภัยและองค์กรในอุตสาหกรรมพลังงานท้องถิ่น เพื่อพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยของระบบบนหลังคา รวมถึงมาตรการป้องกันอัคคีภัย ไม่ว่าลูกค้าจะติดตั้งระบบขนาด 3 กิโลวัตต์, 5 กิโลวัตต์ หรือ 10 กิโลวัตต์ เราพร้อมที่จะออกแบบโซลูชันที่ปรับแต่งตามการใช้งานจริง โดยใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบที่พัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้างแบบจำลองหลังคาของตนเองได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้เรายังกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ปั๊มน้ำแบบประหยัดพลังงาน (Drip Pump) และโซลูชันสำหรับโรงงานขนาดเล็ก เพื่อขยายระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาด
ทอม จาง กล่าวต่อว่า ปัจจุบันระบบการจัดการพลังงาน (Energy Management System) เป็นเรื่องปกติที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่เรากำลังก้าวไปสู่การพัฒนาระบบจัดการบ้านอัจฉริยะ (Smart Home Management System) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของพันธกิจของเรา ระบบนี้จะช่วยให้พันธมิตรทางธุรกิจและลูกค้าสามารถติดตามกระบวนการติดตั้ง การสั่งซื้อ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขอสินเชื่อหรือการประกันภัยผ่านแอปพลิเคชันได้แบบเรียลไทม์ ตัวอย่างเช่น ลูกค้าจะสามารถตรวจสอบสถานะของผลิตภัณฑ์ ตำแหน่งของช่างติดตั้ง และขั้นตอนต่างๆ ของโครงการได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบและปรับแต่งระบบพลังงานของตนเองได้ โดยมีโหมดการใช้งานที่เหมาะสมทั้งบุคคลทั่วไปและผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค ซึ่งช่วยให้การออกแบบและติดตั้งโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์มีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น
ด้านรักษ์สิทธิ์ พัฒนาพิฑูร Assistant Vice President บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พลังงานที่ถูกที่สุดในประเทศไทยตอนนี้คือพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งถูกกว่าพลังงานฟอสซิลที่เราเคยพึ่งพามาเป็นเวลาหลายปี แม้จะมีข้อโต้แย้งว่า “พลังงานแสงอาทิตย์ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 24 ชั่วโมง” และ “มีวันที่ฝนตก” แต่หากเพิ่มแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน แม้จะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ก็ยังแข่งขันได้กับแหล่งพลังงานหลักของไทยในปัจจุบัน นั่นคือก๊าซธรรมชาติแบบ Combined Cycle ดังนั้นพลังงานแสงอาทิตย์จึงเป็นพลังงานที่มีคุณค่า เพราะสามารถตอบโจทย์ ทั้งความมั่นคงทางพลังงาน ความสามารถในการจ่าย และความยั่งยืนได้ในเวลาเดียวกัน
“อุปสรรคหลักของการเติบโตของพลังงานแสงอาทิตย์ในวันนี้ ไม่ใช่ภาคเอกชนหรือความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของกฎระเบียบ ระบบราชการ และปัจจัยอื่นๆ พลังงานแสงอาทิตย์จึงไม่ใช่พลังงานทางเลือก แต่เป็นอนาคตของพลังงานโลก” รักษ์สิทธิ์ กล่าว