The People สื่อออนไลน์ มอบรางวัล รางวัล The People Awards 2023 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยในปีนี้จัดภายใต้คอนเซปต์ “People of Tomorrow” แก่ 10 บุคคลที่มีโดดเด่นในแต่ละสาขาอาชีพ ผู้ที่มีส่วนทำให้โลกในวันพรุ่งนี้ดียิ่งขึ้น และเป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจให้ผู้คนอยากเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยตัวเองขึ้น ตามเกณฑ์ตัดสินของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสายงานต่าง ๆ เพื่อให้การตัดสินมาจากมุมมองในหลากหลายมิติครอบคลุม 3 แกนหลัก (3P) สอดคล้องกับแนวคิด ESG ได้แก่ People สร้างผลกระทบเชิงบวกกับผู้คนและสังคม Planet สร้างผลกระทบเชิงบวกกับสิ่งแวดล้อม และ Progress สร้างผลกระทบในเรื่องการเติบโตของธุรกิจและการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน
อนันต์ ลือประดิษฐ์ บรรณาธิการอำนวยการ ผู้ก่อตั้งสื่อออนไลน์ The People กล่าวว่า สิ่งที่ The People ยึดมั่นมาตลอด 5 ปี คือการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ของคน ในหลากหลายแง่มุมเชิงลึก จึงอยากจะส่งต่อแรงบันดาลใจที่ดีให้กับสังคมและอีกหลายๆ คนในการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ยากเกินจะคาดเดาในแต่ละวัน ซึ่งรางวัล “The People Awards 2023” จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยในปีนี้ จัดมอบภายใต้คอนเซปต์ “People of Tomorrow” มอบให้กับ 10 คน ที่โดดเด่นในแต่ละสาขาอาชีพ ผู้ที่มีส่วนทำให้โลกในวันพรุ่งนี้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจัด 3 ประการ ได้แก่ 1.นำเสนอเรื่องราวของคนที่เป็นต้นแบบผู้ที่มีความโดดเด่นในเรื่องความพร้อมปรับตัวเพื่อรับมือโลกในวันพรุ่งนี้ที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีส่วนทำให้โลกในวันพรุ่งนี้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ลุกขึ้นมาสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้นในแบบของตัวเอง 2.เปิดพื้นที่ให้คนที่มีความตั้งใจและลงมือขับเคลื่อนสังคมมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างให้เป็นที่รู้จักและได้นำเสนอแนวคิดที่พวกเขาตั้งใจผลักดันและ 3.แสดงจุดยืนในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนให้ทุกคนในสังคมร่วมก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างไม่หยุดนิ่ง ตามเกณฑ์ตัดสินของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสายงานต่าง ๆ เพื่อให้การตัดสินมาจากมุมมองในหลากหลายมิติครอบคลุม 3 แกนหลัก คือ 3P ได้แก่ People คนผู้สร้างผลกระทบกับ ผู้คน และสังคม Planet ผู้สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสิ่งแวดล้อมและ Progress คนผู้สร้างผลกระทบในเรื่องการเติบโตของธุรกิจ
10 บุคคลต้นแบบที่ได้รางวัล “The People Awards 2023”
สำหรับ 10 บุคคลต้นแบบ ที่ได้รางวัล “The People Awards 2023” ในปีนี้ ได้แก่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เจ้าของฉายา “โจรจับโจร” ผู้สร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองและสังคม, มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล ศิลปินหญิงเดี่ยวคนแรกที่ได้ขึ้นเวทีระดับโลกในเทศกาลดนตรี Coachella สร้างปรากฏการณ์และเป็นกระแสไปทั่วประเทศ, ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ และ เซน-นครินทร์ ขุนภักดี ศิลปินจากวง Paper Planes วงป็อปพังก์แห่งยุคและหัวหน้าแก๊งฟันน้ำนม เจ้าของเพลงฮิต “ทรงอย่างแบด” , วทันยา อมตานนท์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจเต่าบิน (Taobin) ตู้กดน้ำอัตโนมัติ, พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตตำรวจไทย และเคยเป็นพนักงานสอบสวนดีเด่น ต้องลี้ภัยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 หลังพยายามปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ภาคใต้, ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย นักสอยคิวหญิงชาวไทย ฉายามิ้งค์ สระบุรี เจ้าของแชมป์โลก 2022 สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการก้าวขึ้นไปครองมือ 1 โลกหญิง, ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระที่ทำกิจกรรมทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง , ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนล่าสุด, ซินเธีย หม่อง หมอเจ้าของรางวัลแมกไซไซ ผู้ลี้ภัยชาวพม่าในไทย ผู้ก่อตั้ง “แม่ตาวคลินิก”, และ จุน วนวิทย์ เจ้าของอาณาจักร Hatari บุคคลตัวอย่างที่ช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยไม่หวังผลตอบแทนหรือชื่อเสียง
นอกจากนี้ ยังมีการมอบรางวัล Corporate of Tomorrow เพื่อเป็นเกียรติให้กับองค์กรต่าง ๆ ที่มีส่วนทำให้วันพรุ่งนี้ของสังคมดีขึ้นจากมิติต่างๆ ที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วม ทั้ง Med Park (เมดพาร์ค) โรงพยาบาลแห่งอนาคตที่โดดเด่นในเรื่องการเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นโรงพยาบาลแห่งอนาคต Medical Hub ให้กับผู้คนในวันพรุ่งนี้, บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด องค์กรที่โดดเด่นเรื่อง Environmental Responsibility, EXIM BANK หรือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของ SMEs อย่างต่อเนื่อง กับรางวัล Social Responsibility, บริษัท บิทคับ แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ จำกัด สำหรับรางวัล Corporate of Tomorrow ที่โดดเด่นในเรื่อง Innovation และ บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นองค์กรที่โดดเด่นเรื่อง MedTech จากการเป็นผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ชั้นนำของประเทศไทย
ฟังมุมมองผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส. ในหัวข้อ “People of Tomorrow: โลกเปลี่ยน คนปรับ การเตรียมตัวเป็นผู้นำแห่งอนาคต”
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ก่อตั้ง และหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ประเทศไทยต้องปรับเปลี่ยนแนวนโยบายให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกใน 5 มิติ ได้แก่ เรียนรู้ความรู้ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ต้องมีความซื่อสัตย์ไม่โกงพัฒนาเตรียมคนให้พร้อมในทุกๆสาขาอาชีพรับมือการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศรับมือโลกร้อน รับมือสังคมผู้สูงอายุ และเทคโนโลยีดิสรัปชันทุกรูปแบบ ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ทำงานร่วมกันกับทุกๆภาคส่วนไม่มีใครทำงานคนเดียวแล้วจะประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน ต้องให้เกียรติและให้โอกาสคนรุ่นใหม่ รุ่นบุกเบิกและทุกๆรุ่นมาร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างสิ่งใหม่ๆที่สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ c]tสร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในอนาคตที่กำลังจะมาภายหลังการเลือกตั้งนี้ร่วมกัน
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากเรามีทั้งคนกล้าและคนเก่งที่มาร่วมทำงานขับเคลื่อนประเทศไทยหลังจากนี้จะช่วยให้ประเทศไทยที่มีความขัดแย้งมีสะสมมาอย่างยาวนาน มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมมาอย่างต่อเนื่องค่อยๆคลี่คลายลงได้ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยมีโอกาสที่จะกลับมาอยู่ในช่วงสดใสมีเศรษฐกิจที่ดีมากยิ่งขึ้น “ประเทศไทยมีทางเลือกเสมอขึ้นอยู่กับการเลือกผู้นำที่ตรวจสอบได้ รับฟังเสียงประชาชนและได้รับการยอมรับเข้ามาดำเนินนโยบายขับเคลื่อนประเทศให้ดีขึ้นจากที่เป็นอยู่ ดังนั้นจากนี้เมื่อคนไทยทุกคนที่มีสิทธิเลือกที่กำลังจะมาถึงนี้ตั้งต้องกล้าออกมาเลือกคนที่กล้าชน กล้าทำงาน กล้าพูดตอบโต้กลับด้วยความมีเหตุผลตามระบบการเมืองเพื่อนำพาเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” พิธา กล่าว
สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเป็นผู้นำของประเทศไทยแห่งอนาคต จะต้องมี วิสัยทัศน์ให้ชัด มีเป้าหมายให้มั่น ก้าวข้ามการเมืองเดิม สู้กับการ เปลี่ยนแปลง ในอนาคตด้วย ยุทธศาสตร์สร้างคน สร้างเทคโนโลยีฝีมือคนไทยเพราะคนไทยไม่แพ้ใครในโลก คนไทยมีความรู้เก่งในหลากหลายด้านจึงควรนำคนที่มีความรู้เหล่านั้นมาร่วมขับเคลื่อนประเทศในยุคที่เกิดวิกฤตมากมาย เช่นเดียวกับการกำเนิดคอมพิวเตอร์ควอนตัม และเทคโนโลยีชีวการแพทย์ หากเราไม่ทำอะไรตั้งแต่วันนี้ จะทำให้คนไทยเสียเปรียบ เสียโอกาส และเสียความมั่นคงของชาติ ยังโอกาสในการเลือกผู้นำเพื่อเข้ามาเปลี่ยนแปลงให้ประเทศในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้