บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ประกาศผลการดำเนินงานในปี 2567 ด้วยอัตราเติบโตที่โดดเด่นถึง 24% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีปัจจัยหลักมาจากความสำเร็จในกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด ตลอดจนการได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคและคู่ค้า ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และนวัตกรรมที่คำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้ พร้อมทั้งการขยายช่องทางจัดจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ในปีนี้โตชิบายังคงมุ่งมั่นพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 53 รุ่น พร้อมกลยุทธ์การตลาดระดับภูมิภาค โดยมีแผนขยายตลาดสินค้าไฮเอนด์และการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ผ่าน Experience Store และบริการ Onsite Service เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ตั้งเป้าการเติบโตต่อเนื่อง 25% ในปี 2568 พร้อมก้าวสู่การเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอันดับหนึ่งในประเทศไทย
มร.อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (รวมตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดเล็กไม่รวมทีวี) ในประเทศไทย ปี 2567 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 83,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ประมาณ 9% และเมื่อดูเป็นจำนวนเครื่อง มีประมาณ 21 ล้านเครื่อง เติบโตราว 4% โดยแบ่งประเภทสินค้าเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ สินค้าชิ้นใหญ่ (Major Appliance) ซึ่งประกอบด้วย ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศ มีมูลค่าตลาดประมาณ 65,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตถึง 11% และเมื่อดูเป็นจำนวนเครื่อง มีประมาณ 5.6 ล้านเครื่อง เติบโตประมาณ 8%
ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดสินค้าชิ้นใหญ่เติบโตได้ดี ส่วนหนึ่งมาจากสภาพอากาศที่ร้อนมากในช่วงหน้าร้อน ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นเป็นที่ต้องการในตลาดอย่างสูง ในขณะที่สินค้ากลุ่มที่ 2 ได้แก่สินค้าขนาดเล็ก (Small Appliance) อาทิ หม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่น พัดลม เป็นต้น มีมูลค่าตลาดประมาณ 18,000 ล้านบาท อัตราการเติบโตทรงตัว และจำนวนเครื่องประมาณ 15.4 ล้านเครื่อง เติบโตประมาณ 3% อย่างไรก็ตามสินค้าชิ้นเล็กไม่เติบโตตามคาด เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ประกอบกับกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง
ทั้งนี้ ปี 2567 เป็นปีที่บริษัทฯ ฉลองครบรอบดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 55 ปี และบริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยผลประกอบการรวมเติบโตสูงถึง 24% ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้มาก โดยกลุ่มสินค้าที่สร้างรายได้สูงสุดให้แก่บริษัทฯ ได้แก่ สินค้ากลุ่มตู้เย็น มีอัตราการเติบโต 20% รองลงมาได้แก่กลุ่มเครื่องซักผ้า เติบโตถึง 39% ในขณะที่กลุ่มสินค้าอื่น เช่นกลุ่มเตาอบไมโครเวฟ เติบโต 21% กลุ่มสินค้าหม้อหุงข้าว และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เติบโต 10% กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับน้ำ อาทิ เครื่องทำน้ำอุ่น ทรงตัว สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำ แม้โตชิบาจะไม่เติบโต แต่ภาพรวมตลาดติดลบเกิน 10% เนื่องจากอากาศไม่เอื้ออำนวย และกลุ่มสุดท้ายคือเครื่องปรับอากาศ เติบโต 82% เพียงแต่สัดส่วนการขายไม่มาก และตลอด 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2567) เราสามารถรักษาอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) เฉลี่ย 5 ปี ได้ถึง 15%
จากผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องมาตลอดหลายปี ทำให้ปัจจุบัน โตชิบามีส่วนแบ่งการตลาดติดอันดับท็อป 3 ในเกือบทุกกลุ่มสินค้า โดยกลุ่มสินค้าไมโครเวฟ มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยแชร์ 29% กลุ่มตู้เย็น อันดับ 2 ด้วยแชร์ 15.9% กลุ่มหม้อหุงข้าว อันดับ 2 ด้วยแชร์ 9% และกลุ่มเครื่องซักผ้า อันดับ 3 ด้วยแชร์ 11.1 % ซึ่งปัจจัยที่ทำให้โตชิบาเติบโตได้ต่อเนื่อง และเป็นที่ยอมรับของตลาด จนส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดสูง มาจากความเชื่อมั่นในแบรนด์ ที่บริษัทฯ ทำกิจกรรมต่อเนื่องมาตลอด
ในปี 2567 ที่ผ่านมา โตชิบาได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคและคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการได้คุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์และขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ด้วยคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในด้านความทนทาน ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และแนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ผลิตภัณฑ์โตชิบาเป็นที่ยอมรับและเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกปี นอกจากนี้ โตชิบายังได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรทางการค้า ส่งผลให้สามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายได้ครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีการบริหารจัดการซัพพลายเชนและการทำงานเป็นทีมเวิร์คที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
มร.อเล็กซ์ กล่าวเสริมว่า ปี 2568 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 25% และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อันดับ 1 ในประเทศไทย นอกจากนี้มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่มากถึง 53 รุ่น โดยเน้นเจาะตลาดผู้ใช้กลุ่ม Mid to High ที่ให้ความสำคัญเรื่องดีไซน์ และคุณสมบัติสินค้ามากขึ้น จากปีที่แล้วที่เปิดตัวตู้เย็นซีรีส์ JapanDi สีขาว สวยโดดเด่น ได้รับการตอบรับดีมาก ปีนี้จะมีสินค้ากลุ่มอื่นที่ออกมาเป็นซีรีส์เดียวกัน เพื่อเอาใจลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้เรามีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มอีกกว่า 500 แห่ง โดยเน้นขยายจุดวางสินค้ากลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น รวมไปถึงการทุ่มเงินในการปรับโฉมร้านค้าให้ดูสวย ทันสมัยขึ้น อีกทั้งยังเพิ่ม Experience Store ที่เน้นการโชว์สินค้ากลุ่ม Smart Solution เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้ามามีประสบการณ์การใช้งาน ณ จุดขาย และเพิ่มจำนวนและพัฒนาคุณภาพพนักงานขายหน้าร้าน เพื่อสามารถช่วยเหลือลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง
“สำหรับในส่วนการตลาด เราทุ่มงบเพิ่มขึ้นมาก นอกจากการทำการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งออนไลน์ และออฟไลนด์แล้ว ปีนี้ เราอัพเกรดแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นระดับภูมิภาค และยังมีแผนการตลาดอีกมากมายที่ช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมการขาย และส่วนสุดท้ายที่ โตชิบาให้ความสำคัญ คืองานบริการ เพราะเราให้ความสำคัญกับลูกค้า โดยมีแผนเพิ่มช่องทางพิเศษสำหรับให้บริการสินค้ากลุ่มไฮเอนด์ มีการเพิ่มรถโมบายเซอร์วิส เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าโดยเพิ่มทีมการให้บริการถึงบ้าน (Onsite service) รวมไปถึงการขยายจำนวนศูนย์บริการ และการปรับภาพลักษณ์ศูนย์บริการพรีเมียม และงานบริการให้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น” มร.อเล็กซ์ กล่าวทิ้งท้าย
เอกดนัย ตันติภูมิอมร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โตชิบาวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ไว้ 3 แกนคือ 1) เจาะตลาดแมส (Mass Segment) โดยสรรหาผลิตภัณฑ์ที่ทุกบ้านต้องมี โดยส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในราคามิตรภาพเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง 2) ขยายฐานไปยังกลุ่มระดับกลางถึงบน (Mid to High Segment) ที่เติบโตขึ้นในทุกปี กลุ่มนี้จะมีความต้องการมากขึ้นในเชิงต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดความจุใหญ่ขึ้น และ/หรือ สเปคบางอย่างที่มาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเขา อาทิต้องการความสะดวกสบาย ต้องการประหยัดเงิน 3) เจาะเข้าตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) โดยส่งผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในแต่ละเรื่องแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องดีไซน์ สเปค หรือเทคโนโลยี สำหรับปี 2568 นี้ เรามีแผนขยายสินค้าใหม่มากถึง 53 รุ่น โดยแบ่งเป็นกลุ่มตู้เย็นจาก 11 รุ่น กลุ่มเครื่องซักผ้า 19 รุ่น กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องครัว 16 รุ่น และกลุ่มเครื่องใช้ในบ้านอีก 7 รุ่น
ในปี 2567 บริษัทโตชิบาเติบโตอย่างโดดเด่น โดยตู้เย็นเติบโตถึง 20% ครองตลาดในกลุ่มตู้เย็นประตูเดียวและสองประตูขนาดเล็กด้วยมาร์เก็ตแชร์ 40% และตู้เย็นไซด์บายไซด์ GR-RS600 กลายเป็นรุ่นขายดีที่สุดในไทย ขณะที่เครื่องซักผ้าเติบโต 40% โดยเฉพาะรุ่นฝาบน 12 กิโลกรัมขึ้นไป โตถึง 70% ส่วนผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่างไมโครเวฟและหม้อหุงข้าวยังคงเป็นผู้นำตลาด สำหรับปี 2568 บริษัทมีแผนเปิดตัวสินค้าตู้เย็นใหม่ 11 รุ่น โดยพัฒนาคุณสมบัติเด่น เช่น ระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ และเทคโนโลยี Pure Air Turbo ที่ช่วยกำจัดกลิ่นได้เร็วขึ้น พร้อมตู้เย็นไซด์บายไซด์ความจุ 700 ลิตร รุ่นใหม่ สำหรับเครื่องซักผ้า มีแผนเปิดตัว 19 รุ่นใหม่ พร้อมคุณสมบัติ Aroma+, Steam Wash และ Ultra Fine Bubble Pro ที่ช่วยเพิ่มความสะอาดและประสิทธิภาพการซัก ส่วนผลิตภัณฑ์ในบ้านเตรียมเปิดตัว 23 รุ่น เช่น เครื่องกรองน้ำ หม้อหุงข้าว และพัดลมดีไซน์ใหม่แบบไซโคลนที่กระจายลมได้ไกล 12 เมตร ทั้งนี้เครื่องทำน้ำอุ่น SensTemp รุ่นใหม่ยังมาพร้อมเซนเซอร์ปรับอุณหภูมิน้ำอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกของผู้ใช้งาน
ธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลอง โตชิบาครบรอบ 55 ปีแล้ว เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงจากการสร้างแบรนด์ โดยใช้กลยุทธ์แอมบาสเดอร์มาร์เก็ตติ้ง คุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ ช่วยทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยขยายฐานลูกค้ากลุ่มเดิมเข้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูสมาร์ท อบอุ่น และทันสมัยยิ่งขึ้น
ในปี 2568 โตชิบา ไทยแลนด์ ยกระดับแบรนด์แอมบาสเดอร์สู่ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยดึง ทาคาชิ โซริมาจิ นักแสดงชื่อดังจากญี่ปุ่น มาตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ญี่ปุ่นคุณภาพสูง พร้อมเปิดตัวโฆษณาภายใต้คอนเซปต์ “Toshiba Japan Origin คราฟต์ที่ดีไซน์ ใส่ใจทุกดีเทล” ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ ทีวี สื่อออนไลน์ รถไฟฟ้า บิลบอร์ด และอีกกว่า 3,000 สกรีนทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังเสริมกลยุทธ์ด้วยการใช้ KOLs และคอนเทนต์ดิจิทัล เพื่อสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์โตชิบาอย่างต่อเนื่อง
“เราเตรียมพร้อมสำหรับโรดโชว์ และโปรโมชันต่างๆ ที่จะมาตอบแทนผู้บริโภคตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีแผนการปรับโฉมหน้าร้านค้าให้ดูสวยงาม ทันสมัย และมีแผนขยาย Experience Store เพิ่ม เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าสัมผัส และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่เป็น Smart Solution เชื่อมต่อการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ ทดลองการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องครัวได้ รวมไปถึงได้พูดคุยสอบถามการใช้งานกับพนักงานขายได้เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว” ธัญปภัสส์ กล่าว
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปี ของการดำเนินธุรกิจของโตชิบา ไทยแลนด์ ซึ่งตลอดปีบริษัทฯ มีกิจกรรมการการตลาดและแคมเปญที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้ากลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ได้เป็นอย่างดี ความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดทีมงานชาวอิฐแดงทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เปรียบเสมือนอิฐแต่ละก้อนที่รวมกันเป็นกำแพงที่แข็งแรง รวมถึงพาร์ทเนอร์ ตัวแทนจำหน่ายที่ให้การสนับสนุนโตชิบาเป็นอย่างดี และลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์แบรนด์ ‘TOSHIBA’ จนบริษัทฯ เดินทางมาถึงปีที่ 55 ได้อย่างมั่นคง
อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะเป็นอีกปีที่เราต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย แต่บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่น ‘นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต’ ให้กับคนไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ มาตรฐานประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของใช้งานของทุกคน เพิ่มความสะดวกสบาย เสริมสร้างสุขภาพที่ดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โตชิบา ไทยแลนด์ มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมกับส่งเสริมการเติบโตของคู่ค้าและดีลเลอร์ให้เติบโตไปด้วยกัน และที่ขาดไม่ได้ คือการตอบแทนสังคม ด้วยกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ เพื่อที่โตชิบา ไทยแลนด์จะได้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกันกับสังคมไทย