พลังงาน เบกแผนเงินกู้ 2.5 พันล้าน พยุงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หรือก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน ซึ่งจะสิ้นสุดระยะเวลาอุดหนุนในวันที่ 31 ธ.ค.2564 หลังถูกท้วงติงหวั่นผิดกฎหมาย พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท จับตาเล็งดึงเงินกองทุนน้ำมันฯ ช่วยหรือปล่อยให้ราคาก๊าซหุงต้มขยับขึ้นเป็นขั้นบันได
19 ธันวาคม 2564 – วิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวว่าา ขณะนี้ สกนช.จำเป็นต้องรอการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้เพื่อกำหนดนโยบายถึงแนวทางการรักษาระดับราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือนที่ขณะนี้ตรึงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 31 ธ.ค. 64 ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรหลังจากที่เดิมมีแผนที่จะใช้เงินกู้จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทจำนวน 2,570 ล้านบาท แต่ล่าสุดอาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของเงินกู้ดังกล่าว
“สกนช.ได้ยื่นกู้เงินดังกล่าวไปเพื่อที่จะดูแล LPG ไปถึง ม.ค. 65 แต่ทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ฯ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ท้วงติงว่าอาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพ.ร.ก.กู้เงิน5 แสนล้านบาท เพราะการช่วยเหลือเมื่อดูรายละเอียดจะต้องส่งเงินตรงให้แก่ประชาชน เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่การช่วย LPG ต้องจ่ายผ่านผู้ค้าน้ำมันก่อนจึงอาจทำให้ผู้ปฏิบัติงานทำผิดระเบียบได้” นายวิศักดิ์กล่าว
สำหรับแนวทางเบื้องต้นที่วางไว้ เบื้องต้นอาจไปใช้วงเงินกู้จากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดไว้วงเงินไม่เกิน 30,000 ล้านบาทมาช่วยเหลือ และอีกแนวทางที่ศึกษาไว้คือการทยอยปรับขึ้นราคาเมื่อราคา LPG ตลาดโลกปรับลดลงหลังสิ้นฤดูหนาวในประเทศแถบตะวันตก โดยทั้งหมดคงต้องรอนโยบาย กบง.เป็นสำคัญ โดยปัจจุบันรัฐได้ใช้เงินอุดหนุนราคา LPG เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนช่วงปลายเดือน มี.ค. 2563 ไปแล้ว 13,251 ล้านบาท
ส่วนการขอกู้เงินเพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเป็นจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้าน โดยในระยะแรกจะขอกู้วงเงิน 20,000 ล้านบาทก่อนนั้นได้ทำหนังสือไปยังสถาบันการเงินเพื่อเชิญมาเสนอแผนเงินกู้ประมาณ 10 แห่ง โดยกำหนดให้แจ้งตอบภายใน 31 ม.ค. 65 ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยกับธนาคารออมสินได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของความสามารถในการชำระเงินคืน เนื่องจากอาจจะยังกังวลในเรื่องของสถานการณ์ราคาน้ำมันยังอาจผันผวน
ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 28 พ.ย. 2564 อยู่ที่ 1,426 ล้านบาท โดยมีวงเงินคงเหลือในบัญชีน้ำมันสุทธิ 22,400 ล้านบาท ส่วนบัญชี LPG มีวงเงินติดลบอยู่ที่ 20,974 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาได้ใช้ไปเดือนละ 5,800 ล้านบาท แบ่งเป็นด้านน้ำมัน 3,900 ล้านบาท และ LPG จำนวน 1,900 ล้านบาท