9 พฤษภาคม 2565 – ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติคงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่เกิน 32 บาทต่อลิตร ต่อไปอีก 1 สัปดาห์ ถึงวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ เพื่อลดผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน หลังจากนั้นจะพิจารณาสถานการณ์อีกครั้ง
จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังคงมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวิกฤตความขัดแย้ง รัสเซีย – ยูเครน แต่ กบง. ยังจำเป็นต้องตรึงราคาและใช้กลไกลกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าอุดหนุน เพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้นจนประทบต่อประชาชน โดยเฉพาะจากการปรับราคาดีเซล ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อภาคขนส่ง ธุรกิจและอุตสาหกรรม และเป็นปัจจัยในการขยับราคาสินค้าต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน
นายวิศักดิ์ วัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ สกนช. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน. มีมติให้คงตรึงราคาขายปลีก “น้ำมันดีเซล” ประจำสัปดาห์นี้ไว้คงเดิม 32 บาทต่อลิตร เพื่อลดภาระ และเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพให้ประชาชน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจาก ครม.เห็นชอบให้มีการปรับราคา “น้ำมันดีเซล” เพื่อลดภาระกองทุนน้ำมัน โดยยังอุดหนุนครึ่งหนึ่ง ขณะนั้นอุดหนุนกว่า 10 บาทต่อลิตร โดยเพดานต้องขยับเป็นกว่า 35 บาทต่อลิตร แต่เพื่อลดภาระประชาชน ได้ปรับขึ้นราคา “น้ำมันดีเซล” เป็นขั้นบันได โดยขยับ 2 บาทต่อลิตรเป็น 32 บาทต่อลิตร และจะเปลี่ยนแปลงทุกสัปดาห์ โดยดูทิศทางโลกประกอบในวันที่ 16 พ.ค. 65 ซึ่งต้องยอมรับว่า แนวโน้มตลาดโลกยังปรับขึ้น แต่มีปัจจัยบวกว่า ยุโรปจะพ้นช่วงฤดูหนาวจึงขอดูทิศทางก่อน ล่าสุด ได้มอบหมายให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงพลังงาน ไปเร่งหามาตรการในการช่วยเหลือให้กับประชาชนเพิ่มเติมในการลดผลกระทบพลังงาน โดยขอให้ส่งแผนกับปลัดกระทรวงพลังงานภายในวันศุกร์ 13 พ.ค.65 นี้
ทั้งนี้ โครงสร้างราคาน้ำมันดีเซลล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม กระทรวงพลังงานได้ปรับขึ้นราคาเป็นไม่เกิน 32 บาทต่อลิตร ในขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันโลกยังคงพุงสูงต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกปรับขึ้นมาอยู่ที่ 160.65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุน “น้ำมันดีเซล” 11.35 บาทต่อลิตร และมีฐานะกองทุนติดลบมากกว่า 6.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 33,258 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจี ติดลบ 33,423 ล้านบาท