จีนเป็นผู้ผลิตไฮโดรเจนรายใหญ่ที่สุดของโลก ปัจจุบันส่วนใหญ่ผลิตเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเคมีและการกลั่น และใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลจากถ่านหินเป็นหลัก ซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในกระบวนการผลิตจำนวนมาก จึงเรียก ไฮโดรเจน ที่ได้ว่า “ไฮโดรเจนสีดำ”
นอกจากนี้ จีนยังเป็นผู้นำโลกในการผลิตพลังงานหมุนเวียนอย่าง “พลังงานลม” โดยกว่า 61% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ได้จากแหล่งกังหันลมบนบกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ พื้นที่ที่มีลมแรง ซึ่งในบ้างครั้งพลังงานลมที่ได้ต้องสูญเปล่าไปเพราะระบบกริดยังไม่สามารถรองรับความแปรปวนของปริมาณลมตามธรรมชาติได้ แต่พลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานลม สามารถนำมาใช้เพื่อผลิตไฮโดรเจนได้ โดยปราศจากการปล่อย CO2 ทำให้ไฮโดรเจนที่ได้นี้ เรียกว่า “ไฮโดรเจนสีเขียว”

ปัจจุบันทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยชานตง และมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจง ได้ทำการสำรวจศักยภาพในการควบคุมพลังงานลมของจีน เพื่อศึกษาถึงแนวทางและความเป็นไปได้ในการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวที่ปราศจากคาร์บอนด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าการผลิตไฮโดรเจนสีดำที่ได้จากถ่านหิน
หากไฮโดรเจนสีเขียวสามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถแข่งขันด้านต้นทุนกับคาร์บอนแบล็คที่ใช้อยู่ในอุตสาหกรรมปัจจุบันได้ ไฮโดรเจนสีเขียวจะกลายเป็นแหล่งพลังงานคาร์บอนเป็นศูนย์ ที่สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ยากต่อการกำจัดคาร์บอน ซึ่งรวมถึงการผลิตโลหะและเหล็กกล้า การทำปูนซีเมนต์และการใช้งานในอุตสาหกรรมการขนส่งและงานหนักหลากหลายประเภทได้

นักวิจัยได้เลือกมองโกเลียในตะวันตก พื้นที่ที่มีปริมาณการผลิตพลังงานลมสูง มีการใช้ถ่านหินและไฮโดรเจนสีดำปริมาณมหาศาล เป็นภูมิภาคที่นำมาใช้ในการประเมินความเป็นไปได้ในทางเทคนิคและเศรษฐกิจของการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวจากพลังงานลม
จากผลงานวิจัยพบว่า ไฮโดรเจนสีเขียวที่ผลิตได้จากพลังงานลมสามารถแข่งขันกับไฮโดรเจนสีดำได้ โดยผลิตได้มาก ที่ต้นทุนน้อยกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯ/กก. ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในด้านความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน
ภายในปี 2030 การเปลี่ยนไฮโดรเจนสีดำจากถ่านหิน เป็นไฮโดรเจนสีเขียวที่ได้จากพลังงานลมในพื้นที่มองโกเลียในตะวันตกจะมีปริมาณที่เพิ่มขึ้น และเพียงพอสำหรับการเป็นเชื้อเพลิงป้อนให้กับภาคอุตสาหกรรม โดยจะสามารถช่วยลดการปล่อย CO2 ได้ประมาณ 100 ล้านตันต่อปี เทียบเท่ากับปริมาณครึ่งหนึ่งของคาร์บอนฟุตพริ้นท์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่อย่างปักกิ่ง
ข้อมูลที่คุณอาจสนใจ |