Action for Green รักษ์โลกให้เรียนรู้ – 4 GURU ด้านสิ่งแวดล้อมแนะแนวทางรักษ์โลก เริ่มต้นใหม่ในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง หลังวิกฤตโควิด-19


งานเสวนาดีๆ ด้านสิ่งแวดล้อม ในหัวข้อ “Action for Green รักษ์โลกให้เรียนรู้” ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้จัดขึ้นในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยได้เชิญกูรูดังด้านสิ่งแวดล้อมมาแนะแนวทางรักษ์โลกหลังวิกฤตโควิด-19 ชวนทุกภาคส่วนหันมาเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ย้ำธุรกิจหรือองค์กรที่ยั่งยืนต้องมีความสมดุลของเป้าหมายการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดตัวนิทรรศการออนไลน์ แหล่งเรียนรู้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมิติใหม่ในแบบ New Normal ภายใต้โครงการณรงค์ Stop COVID Fast Restart Faster หยุดได้ไวเริ่มใหม่ได้เร็ว

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดงานวันสิ่งแวดล้อม กฟผ. ในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน2563 ด้วยการจัดเสวนา EGAT GURU Talk ครั้งที่ 2 แบบ Live สด รับ New Normal ในหัวข้อ “Action for Green รักษ์โลกให้เรียนรู้” เพื่อร่วมหาแนวทางดูแลสิ่งแวดล้อมหลังวิกฤตโควิด-19 กับกูรูดังด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล รองคณบดีด้านยุทธศาสตร์และนวัตกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ในฐานะกรรมการ กฟผ. คุณติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ดารานักแสดง ผู้ดำเนินรายการเนวิเกเตอร์และรายการ The Brothers Thailand คุณพิมพรรณ ดิศกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย และคุณปิยะชาติ อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แบรนดิ คอร์ปอเรชัน จำกัด จากห้องออดิทอเรียม กฟผ.สำนักงานกลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล ให้ทัศนะว่า วันสิ่งแวดล้อมโลกปีนี้ ให้ความสำคัญกับเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ (Bio Diversity) ซึ่งมีผลมาจากปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงระดับโลกอย่างประเทศออสเตรเลีย และป่าอเมซอน สาเหตุสำคัญของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ความแปรปรวนของสภาพอากาศทั่วโลก และคุณภาพชีวิตที่แย่ลงของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะคน สัตว์ หรือพืช ซึ่งการดำเนินการของทุกองค์กรหลังจากจบวิกฤตโควิด-19 นี้จะต้องปรับตัวเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงและการดำเนินชีวิตปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) โดยต้องนำแผนธุรกิจ แผนความยั่งยืน และแผนการดำเนินชีวิตแบบ New Normal มาปรับใช้ควบคู่กันอย่างสมดุล เพื่อนำไปสู่การเป็นองค์การแห่งความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ด้านคุณติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ให้แนวคิดว่า ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสำคัญกับการรณรงค์ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติมากขึ้น แต่เราก็ยังคงพบกับเหตุการณ์ไฟป่า การทิ้งขยะ หรือการทำลายสิ่งแวดล้อมอยู่การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือในการป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรดำเนินการควบคู่ไปกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีของมนุษย์และการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน ทั้งนี้ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เพื่อเรียนรู้เสริมสร้างประสบการณ์ในการดูแลรักษาธรรมชาติ สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน

คุณพิมพรรณ ดิศกุล ณ อยุธยา ได้ถ่ายทอดประสบการณ์จากการร่วมพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงรายว่า ปัจจัยที่ทำให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืนคือ ต้องขจัดความยากจน เข้าใจวิถีชีวิต ลักษณะพื้นที่ และระบบสาธารณูปโภค ซึ่งต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทั้งชุมชน ภาครัฐ และภาคเอกชนในการแก้ปัญหา สำหรับในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา นโยบายอยู่บ้านของประชาชน ทำให้มีขยะพลาสติกจากการสั่งซื้ออาหารออนไลน์จำนวนมาก ทางเครือข่ายจึงจัดทำโครงการพลาสติกกลับบ้านเพื่อนำพลาสติกมารีไซเคิลวนใช้ใหม่ โดยสามารถนำไปส่งได้ที่จุดรับฝากของภาคเอกชนที่มาร่วมเป็นจิตอาสา

ด้านคุณปิยะชาติ อิศรภักดี กล่าวว่า กลยุทธ์ที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ คือ การหาความสมดุลระหว่างธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อให้เกิดความร่วมมือ เพราะในอนาคตคนจะสนใจความสำเร็จทางธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่ส่งผลดีต่อคนในสังคมและสิ่งแวดล้อมซึ่งจะนำมาสู่ความเชื่อมั่นต่อองค์กรและเอื้อให้ธุรกิจเติบโต

Action for Green รักษ์โลกให้เรียนรู้

งานสิ่งแวดล้อม กฟผ. ปีนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกที่ กฟผ. จัดสวนนิทรรศการออนไลน์ (E-Exhibition) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมด้านพลังงานแบบ New Normal ที่จะให้ความรู้สึกเสมือนได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการในสวนด้วยตัวเอง ภายใต้แนวคิด “Action for Green รักษ์โลกให้เรียนรู้” โดยรวบรวมความรู้และความสนุกมาไว้ถึง 16 จุด เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ซึ่งผู้เข้าชมจะได้พบกับชุดประกอบรถไฟฟ้าดัดแปลงที่จะเปลี่ยนรถยนต์เก่าให้เป็นรถไฟฟ้าในต้นทุนไม่เกิน 2 แสนบาท เยี่ยมชม EGAT Green Building ภายในอาคาร ท.103 ซึ่งเป็นอาคารอนุรักษ์พลังงานที่ออกแบบตามมาตรฐาน LEED ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ประหยัดพลังงาน ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร นอกจากนี้ภายในนิทรรศการได้ยกความสวยงามจากกังหันลมลำตะคองที่ใช้ผลิตไฟฟ้าจากบนยอดเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา มาไว้บนหน้าจอเสมือนไปเยือนด้วยตาตนเอง รวมถึงโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำแบบไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี ซึ่งผสมผสานการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ลอยน้ำและพลังน้ำจากเขื่อน ช่วยเสริมความมั่นคงกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ หากเยี่ยมชมนิทรรศการครบทุกจุดระหว่างวันที่ 5-12 มิถุนายน 2563 ยังสามารถลุ้นรับของรางวัลได้อีกด้วย โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการได้ทาง https://e-exhibition.egat.co.th/

“กฟผ. เชื่อมั่นว่า การอนุรักษ์พลังงานเป็นการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด ทุกคนสามารถเริ่มได้ที่ตนเองโดยปรับตัวตามวิถีแนวทางใหม่ ซึ่งตลอดระยะเวลา 51 ปี กฟผ. ดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของชุมชนเป็นหลัก และในวิกฤตโควิด-19 นี้ กฟผ. ขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมด้วยกิจกรรมต่าง ๆที่สร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้แคมเปญ “Stop COVID Fast Restart Faster หยุดได้ไว เริ่มใหม่ได้เร็ว”


Source: การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save