บีเอเอสเอฟเปิดตัวผู้บริหารหญิงคนไทยคนแรก เดินหน้าสร้างสรรค์เคมีภัณฑ์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน


บีเอเอสเอฟ ผู้นำด้านการผลิตเคมีภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับโลกจากประเทศเยอรมนี มุ่งคิดค้นและพัฒนาเคมีภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ครอบคลุมในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก มีเป้าหมายการสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีพนักงานทั่วโลก111,481 คน (ข้อมูล 31 ธ.ค.65) 

บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาระดับโลก เน้นการลงทุนพัฒนาทรัพยากรบุคคลและงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ  ในพ.ศ. 2565 ได้ลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา 2.3 พันล้านยูโร  มีการจดสิทธิบัตรมากกว่า 1,000 Patents ปัจจุบันบริษัทฯ มีสินค้ามากกว่า 45,000 รายการ ครอบคลุม 11 ธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ รองรับลูกค้ามากกว่า 82,000 รายทั่วโลก ทั้งนี้ยอดขายของกลุ่มบริษัทบีเอเอสเอฟทั่วโลกใน พ.ศ. 2565 มีมูลค่าสูงถึง  87.3 พันล้านยูโร คิดเป็นยอดกำไร 6.9 พันล้านยูโร

รสจันทร์ โลหะกิจสงคราม

รสจันทร์ โลหะกิจสงคราม กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบีเอเอสเอฟ ในประเทศไทยและเวียดนาม  ซึ่งเป็นผู้บริหารคนไทยและผู้หญิงคนแรกของบีเอสเอฟ ประเทศไทย กล่าวว่า บีเอสเอฟมีพันธกิจ “การสร้างสรรค์เคมีภัณฑ์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” เน้นการนำความยั่งยืนมาเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจในทุกมิติ โดยถ่ายทอดประสบการณ์และความสำเร็จทางธุรกิจผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่คิดค้นมาเพื่อส่งเสริมการนำทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่จำกัดมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คนในสังคม

บีเอเอสเอฟ ให้ความสำคัญต่อการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตและความสำเร็จทางเศรษฐกิจควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม ผลักดันการมีส่วนร่วมกับกลุ่มลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อยกระดับสู่การขับเคลื่อนให้เกิดความยั่งยืนในทุกกระบวนการของการดำเนินธุรกิจ รวมถึงระบบปฏิบัติการและการดำเนินงานต่างๆ ในมาตรฐานระดับโลก เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 25%  ใน ค.ศ. 2030 และบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ (Climate Neutrality) และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในค.ศ. 2050

โรงงานบีเอเอสเอฟ ประเทศไทยที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ
โรงงานบีเอเอสเอฟ ประเทศไทยที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ

บีเอสเอฟเริ่มธุรกิจในประเทศไทยในปี 2509  มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ ชั้น 23 อาคารเอ็มโพเรียมทาวเวอร์   บนพื้นที่ 2,000 ตรม. ตั้งโรงงานแห่งแรกในปี 2549 ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ มีศูนย์การผลิตทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ. สมุทรปราการ  ศูนย์การผลิตบางปะกง  นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี และศูนย์การผลิต นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง อีกทั้งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านเทคนิคของธุรกิจสีพ่นรถยนต์และศูนย์พัฒนาทางเทคนิคของธุรกิจโพลิเมอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ประจำภูมิภาคอาเซียน จ.สมุทรปราการ

ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจมากกว่า 55 ปีในประเทศไทย บีเอเอสเอฟได้ขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมใหม่ ควบคู่กับการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่มีความหลากหลาย และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ได้อย่างดี อาทิ โซลูชั่นด้านการเกษตร ตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) ในยานยนต์ สารเคลือบและสีพ่นในการผลิตรถยนต์ เคมีภัณฑ์เพื่อการอุปโภค เคมีภัณฑ์เพื่อโภชนาการและสุขภาพ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรม โพลิเมอร์ประสิทธิภาพสูง โพลียูรีเทน รวมถึง เคมีภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงต่างๆ โดยพ.ศ.2565ยอดขายของกลุ่มบริษัทบีเอเอสเอฟสำหรับลูกค้าในประเทศไทย มีมูลค่าสูงถึง 676 ล้านยูโร เทียบกับปีก่อนหน้า(พ.ศ.2564) มียอดขาย580 ล้านยูโร

สำหรับผลประกอบการในไตรมาสแรกของพ.ศ.2566 ยังไม่ดีนัก แต่ในไตรมาสที่ 2  น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากนโยบายสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภาครัฐ โดยบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตสารตั้งต้นสำหรับผลิตแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า  หากมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เพียงพอ  ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นมาก

ล่าสุดบีเอเอสเอฟได้พัฒนาเครื่องแยกประเภทพลาสติกแบบพกพา เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำพลาสติกไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธี  โดยได้มอบให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโครงการ Alliance to End Plastic Waste (AEPW)  และเข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการ PPP  และ Together for   Sustainable Development การจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน  พร้อมตั้งเป้าเพิ่มยอดขายสินค้าหมุนเวียน เพื่อให้ถึง 17 พันล้านยูโร ภายในค.ศ. 2030

รสจันทร์ กล่าวว่า  บีเอเอสเอฟ ประเทศไทย ได้ทำการปรับปรุงสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครในเดือนกรกฎาคม 2565 ภายใต้ธีม “Life at Work @BASF”  ด้วยงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมความยืดหยุ่น ความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงาน 200 คนด้วยพื้นที่เปิดโล่ง การตกแต่งที่ทันสมัยแบบไร้กาลเวลา และผสมผสานกับเทคโนโลยีนำสมัยให้สมกับเป็น Future of Work”   โดยเน้นความปลอดภัยควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม

บีเอเอสเอฟ ประเทศไทย สำนักงานใหญ่

บีเอเอสเอฟ ประเทศไทย สำนักงานใหญ่ คว้ารางวัล "สำนักงานสีเขียว" (Green Office)

เมื่อเร็วๆ นี้ บีเอเอสเอฟ ประเทศไทย สำนักงานใหญ่ คว้ารางวัล “สำนักงานสีเขียว” (Green Office) จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากจำนวนผู้สมัครทั้งหมด 58 บริษัท  โดยผ่านหลักเกณฑ์การคัดเลือกที่มุ่งเน้นการให้ความสำคัญด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนตามที่กำหนด  ได้แก่ การลดการใช้พลังงานและทรัพยากร การจัดการขยะและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพและการหมุนเวียนเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ การสนับสนุนการจัดซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การริเริ่มกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการทำงานและความน่าอยู่ของสำนักงาน

ส่วนการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน บีเอสเอฟ ประเทศไทยได้เล็งเห็นความสำคัญในการมอบโอกาสด้านการศึกษาให้กับเยาวชน โดยบริษัทฯ ได้ริเริ่มและดำเนินโครงการ BASF Kid’s Lab เพื่อสนับสนุนและพัฒนาการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่มาพร้อมกับความสนุกสนาน เน้นความเชื่อมโยงระหว่างองค์ความรู้ด้านเคมีและการดำเนินชีวิตประจำวันให้แก่เด็ก ซึ่งตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการตั้งแต่ พ.ศ.2546 เป็นต้นมา มีเยาวชนในระดับชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการมากกว่า 11,400 คน  ในพ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังริเริ่มโครงการ Virtual Lab เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้ประสบการณ์การทดลองทางวิทยาศาสตร์ในรูปแบบเสมือนจริงผ่านทางระบบออนไลน์ที่เป็นภาษาไทย และได้บริจาคคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนในเขตพื้นที่จ.ระยอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การผลิตของบีเอเอสเอฟ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนสามารถเข้าถึงการทดลองในรูปแบบออนไลน์และพัฒนาทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ไปพร้อมกันอีกด้วย

“ตลอดระยะเวลากว่า 55 ปีที่ผ่านมา บีเอเอสเอฟ ประเทศไทย เดินหน้าส่งเสริมและผลักดันการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนให้แก่ลูกค้าในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ดิฉันรู้สึกยินดีและภูมิใจมากที่เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับโอกาสให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บีเอเอสเอฟ ประเทศไทย เพื่อสานต่อพันธกิจหลักของบริษัทฯ ในการสร้างความเชื่อมั่นและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและพนักงานของเรา เพื่อยกระดับความสำเร็จทางธุรกิจให้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการผลักดันความร่วมมือทั้งกับพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้าทางธุรกิจของบริษัทฯ” รสจันทร์  กล่าวทิ้งท้าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save