กรุงเทพมหานคร เตรียมทดสอบจัดเก็บขยะเศษอาหารจากบ้านเรือนประชาชน นำรองใน 6 เขต ได้แก่ เขตบางพลัด, บางคอแหลม, ลาดพร้าว, พญาไท, ธนบุรี และลาดกระบัง เพื่อรองรับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะอัตราใหม่ ที่จะบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2568
นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมจัดเก็บขยะเศษอาหาร ใน 6 พื้นที่เขตนำร่อง โดยทดลองจัดเก็บขยะเศษอาหารตามเส้นทางบ้านเรือนประชาชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการบ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม ทางแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay เพื่อรองรับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมอัตราขยะใหม่ ที่จะบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2568 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ช่วยลดปริมาณขยะที่ กทม. จะนำเข้าสู่ระบบกำจัด โดยกำหนดนำร่องใน 6 เขต ประกอบด้วย เขตบางพลัด เขตบางคอแหลม เขตลาดพร้าว เขตพญาไท เขตธนบุรี และเขตลาดกระบัง เริ่มดำเนินการจัดเก็บในวันที่ 21 เมษายน 2568 โดยสำนักสิ่งแวดล้อมจะร่วมกับสำนักงานเขตจัดเก็บข้อมูล ติดตาม และประเมินผล เพื่อนำมาวิเคราะห์ พร้อมถอดบทเรียน จัดทำเป็นแนวทางเพื่อขับเคลื่อนและขยายผลการดำเนินงานไปให้ครบ 50 เขตต่อไป
สำหรับแนวทางการดำเนินงานเมื่อประชาชนสมัครเข้าร่วมโครงการบ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม โดยสามารถสมัครทางแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay ซึ่งจะมีการลงพิกัดบ้านที่เข้าร่วมโครงการและได้มีการคัดแยกขยะ แบ่งเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย ขยะเศษอาหาร ขยะทั่วไป ขยะรีไซเคิล และขยะอันตราย สำนักงานเขตพื้นที่จะจัดทำแผนและเตรียมการจัดเก็บขยะเศษอาหารแบ่งตามเส้นทางและความเหมาะสมของพื้นที่ ติดสติ๊กเกอร์ที่บ้านพร้อมแจกถุงเขียวเพื่อใส่ขยะเศษอาหารสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเขตจะจัดเก็บเส้นทางละ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ตามความเหมาะสม
ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กทม.จะส่งเสริมให้ประชาชนนำขยะเศษอาหารไปใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด เช่น นำไปเป็นอาหารสัตว์หรือรวบรวมส่งให้เกษตรกรในพื้นที่ นำไปทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารด้วยการใช้ถังหมักรักษ์โลก ซึ่งสำนักงานเขตจะมีการลงพื้นที่เพื่อสื่อสารและทำความเข้าใจกับประชาชน รวมถึงนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้เพื่อมุ่งหวังลดขยะตั้งแต่ต้นทางให้มากที่สุด ประชาชนยังสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการบ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม สามารถสมัครโดยดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay ได้อย่างต่อเนื่อง หากสงสัยสามารถสอบถามที่ สำนักสิ่งแวดล้อม โทร. 0 2203 2929
ที่มา: กรุงเทพมหานคร