BYD บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานผลิตรถยนต์โดยสารสาขาต่างแดนแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมจัดพิธีส่งมอบรถ BYD ATTO 3 คันที่ 9,999 และ 10,000 ในคราวเดียวกัน โดยมีบุคคลสำคัญจากหลากหลายวงการในประเทศไทยเข้าร่วม อาทิ นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI), พิริยะ เข็มพล ที่ปรึกษาพิเศษด้านการต่างประเทศ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC), สุพจน์ ต่ออาจหาญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง, ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน, จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), ทรงศักดิ์ ชื่นตา ผู้อำนวยการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำนักงานนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์นซีบอร์ด 1-4 และ ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ BYD ในประเทศไทย
ในปี 2565 BYD มียอดขายรถยนต์พลังงานใหม่สูงถึง 1.86 ล้านคันหรือสูงขึ้น 208.6% จากปีก่อนหน้า จึงขึ้นแท่นเป็นผู้นำรถยนต์พลังงานใหม่ของโลกในแง่ยอดขาย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ของ BYD สูงถึง 193,655 คัน นับเป็นตัวเลขก้าวกระโดดจากยอด 88,283 คันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทั้งนี้ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ยอดขายของ BYD อยู่ที่ 90,639 คันในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566 เมื่อรวมกับยอดขายจากเดือนมกราคมของปีเดียวกัน ยอดขายรวมจะสูงถึง 161,977 คัน หรือเติบโต 80.86% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากที่ BYD มีแผนยกระดับการดำเนินงานตลอดจนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิตและช่องทางการขายอย่างแข็งขัน พร้อมทั้งยังมีแรงหนุนยานพาหนะพลังงานใหม่อย่างจริงจังจากภาครัฐบาลในหลายประเทศ
นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวว่า การจัดตั้งฐานผลิตในประเทศไทยของ BYD จะเสริมพลังให้แก่อุตสาหกรรมพาหนะพลังงานใหม่ของไทย รวมถึงช่วยสร้างงานและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ที่สำคัญ ยังเป็นการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและไทยด้วย
พิริยะ เข็มพล ที่ปรึกษาพิเศษด้านการต่างประเทศ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กล่าวว่า ปัจจุบัน ทุกประเทศใส่ใจต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการขาดแคลนพลังงาน การส่งเสริมการพัฒนาพาหนะพลังงานใหม่จึงถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการปกป้องโลกและถือเป็นสิ่งที่ต้องเลือกทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หากต้องการส่งเสริมความยั่งยืนทางเศรษฐกิจบนโลกใบนี้
มร.หวาง ลี่ผิง อัครราชทูตที่ปรึกษาเศรษฐกิจและพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า พิธีวางศิลาฤกษ์ในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของ BYD ที่มุ่งมั่นขยายฐานการผลิตและขับเคลื่อนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงเป็นประจักษ์พยานสำคัญถึงความพยายามของ BYD ในการเร่งขับเคลื่อนแวดวงพลังงานใหม่และสร้างการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นจริงในระดับโลก
มร.หลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า BYD ยึดมั่นในปรัชญา ‘เทคโนโลยี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอนาคต’ ขององค์กรมาโดยตลอด จึงส่งเสริมนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพาหนะพลังงานใหม่อย่างต่อเนื่อง การจัดตั้งฐานการผลิตรถโดยสารในไทยถือเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งขยายธุรกิจในตลาดเอเชีย-แปซิฟิกและการพัฒนาอุตสาหกรรมในตลาดท้องถิ่น
ภายในงานดังกล่าว BYD ยังได้ส่งมอบรถ BYD ATTO 3 คันที่ 9,999 และ 10,000 ให้แก่ลูกค้าอีกด้วย เพื่อต้องการแสดงความขอบคุณต่อลูกค้าตลอดจนประกาศความมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพและนวัตกรรม
ปัจจุบัน ประเทศไทยได้กลายเป็นศูนย์กลางพาหนะพลังงานใหม่ที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 มีจำนวนพาหนะพลังงานใหม่ที่จดทะเบียนใช้งานในไทยแล้วทั้งสิ้น 16,672 คัน สูงขึ้น 281.86% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีก่อนหน้า ที่สำคัญ ตลาดพาหนะพลังงานใหม่ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว เพราะจำนวนรุ่นรถยนต์ในตลาดและมาตรการให้เงินสนับสนุนเพื่อส่งเสริมการใช้งานพาหนะที่เป็นต่อสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลไทย
นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจนถึงปลายเดือนมกราคมปีนี้ รถ BYD ATTO เพียงรุ่นเดียว สามารถจดทะเบียนรถได้มากถึง 1,352 คัน โดยจำนวนดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 8% ของจำนวนรถยนต์พลังงานใหม่ที่จดทะเบียนในประเทศไทย และจำนวนรถ BYD ATTO 3 ที่จดทะเบียนในไทยยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยตัวเลขพุ่งไปแตะ 3,000 คันแล้ว ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 สะท้อนชัดถึงตำแหน่งผู้นำของ BYD ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของไทย
BYD ATTO 3 เป็นรถยนต์เอนกประสงค์ SUV แบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ BYD เปิดตัวในตลาดไทยพร้อมแพลตฟอร์มออนไลน์ (e-platform) ระดับ 3.0 นับเป็นรถคุณภาพเยี่ยมทั้งในด้านดีไซน์ เทคโนโลยี ประสิทธิภาพการใช้งานและประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้
ในพิธีส่งมอบรถ BYD ATTO 3 คันที่ 9,999 และ 10,000 ให้ลูกค้า มร.เค่อ หยู่ปิน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ส่งมอบรถให้แก่ลูกค้า พร้อมให้คำมั่นว่าเราจะทำงานหนักต่อไปเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า รวมถึงเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมพาหนะพลังงานใหม่ด้วย
การก่อสร้างและส่งเสริมฐานผลิตรถยนต์โดยสารมีความเกี่ยวข้องกันชนิดที่แยกออกจากกันไม่ได้ ทันทีที่ฐานผลิตเริ่มประกอบการ ระยะเวลารอรับรถของลูกค้าในตลาดไทยจะลดลงเพราะไม่ต้องเสียเวลารอกระบวนการนำเข้า รอรถถูกขนส่งมาทางเรือและรอรถผ่านพิธีการศุลกากรซึ่งใช้เวลานาน เรียกได้ว่าฐานผลิตในไทยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการส่งมอบผลิตภัณฑ์ของ BYD และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในตลาดไทยได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับฐานผลิตรถยนต์โดยสารของ BYD ในไทยมีพื้นที่เกือบ 600 ไร่ พร้อมจะเริ่มผลิตในปีหน้าด้วยกำลังผลิตต่อปีที่สูงถึงราว 150,000 คัน ในอนาคต BYD จะเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นรวมถึงการให้บริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้บริโภคชาวไทย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมพาหนะพลังงานใหม่และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยด้วย