โรคสมองฝ่อ


โรคสมองฝ่อกำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมากมายในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ โรคนี้มักเกิดกับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หลัง 60 ปีจะพบมากขึ้น เกิดจากการที่เนื้อเยื่อสมองมีการเสื่อม ตัวอย่างความชราภาพหรืออายุที่มากขึ้นทำให้สารและฮอร์โมนบางอย่างในสมองเสื่อมสลายไป ก่อให้เกิดเซลล์สมองและเนื้อเยื่อสมองพลอยเสื่อมตัวไปด้วย เกิดภาวะการเหี่ยวตัวหรือหดตัวลงของเซลล์และเนื้อเยื่อของสมอง เป็นเหตุให้สมองเหี่ยวหรือสมองฝ่อ (CEREBRAL ATROPHY) ก่อให้เกิดอาการผิดปกติทางสมองของผู้สูงอายุ ความคิด ความจำ การรับรู้เรื่องราวต่างๆ จะเชื่องช้า เกิดความจำเสื่อม การตอบสนองต่อส่วนต่างๆ ของร่างกายเฉื่อยชาลง ขีดความสามารถของการช่วยเหลือตัวเองในกิจวัตรประจำวันต่างๆ ช้าลงหรือทำไม่ได้อย่างปกติ เช่น การดูแลสุขอนามัยส่วนตัวทำได้ยากและลำบากขึ้นหรือทำได้ไม่สมบูรณ์ ต้องอาศัยคนใกล้ชิด ญาติ หรือผู้ดูแลคอยช่วยเหลือ การรับรู้หรือการตอบสนองในเรื่องต่างๆ กับบุคคลอื่นทำได้ยากขึ้น รับประทานอาหารได้น้อยลง นอนหลับยากขึ้น รวมถึงการแยกตัว เก็บตัวเงียบไม่ติดต่อสื่อสารหรือร่วมสังคมกับบุคคลอื่น บางรายการพูดคุยและสื่อสารกับผู้อื่นทำได้ยากขึ้นหรือทำไม่ได้ กำลังของกล้ามเนื้อแขน ขาอ่อนแรงลง การนั่ง ยืน เดิน ทำได้น้อยลงหรือไม่สามารถทำได้ ต้องอาศัยผู้อื่นคอยช่วยเหลือ การทรงตัวในการยืน เดินไม่มั่นคง โอกาสเกิดการหกล้มหรืออุบัติเหตุสูงขึ้น การกลืนอาหารทำได้ยากขึ้น อาจมีสำลักอาหารและน้ำดื่มได้ นอกจากนี้ในเรื่องของการขับถ่ายทั้งอุจจาระและปัสสาวะอาจขับถ่ายได้ยากขึ้นปัสสาวะไม่ออกหรือถ่ายอุจจาระไม่ออก ผู้สูงอายุบางรายอั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่ เกิดการขับถ่ายโดยไม่รู้ตัวหรือบอกผู้อื่นไม่ทัน เป็นต้น

จากอาการผิดปกติหรือปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ผู้ป่วยจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องต่อไป สภาพของโรคนี้มักเป็นเรื้อรัง จึงต้องใช้เวลาในการดูแลรักษาต่อเนื่องยาวนาน และโอกาสหายเป็นปกติค่อนข้างยาก ส่วนใหญ่มักจะรักษาแบบประคับประคอง ดูแลป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ไม่ให้สภาพร่างกายทรุดมากไปกว่าเดิม ส่วนใหญ่จะรักษาด้วยยาร่วมกับการดูแลทางด้านกายภาพบำบัดและด้านการพยาบาล ช่วยรักษา แก้ไขภาวะของสมองฝ่อ รวมถึงโรคประจำตัวอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในกระแสเลือดสูง โรคหัวใจ โรคปอด โรคทางเดินอาหาร รวมถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น โรคไทรอยด์ เป็นต้น ภาวะโลหิตจาง ฯลฯ

โรคสมองฝ่อนี้อาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ ลมชัก รวมถึงความผิดปกติของหลอดเลือดสมองตีบ ตัน แตก เกิดซีกหนึ่งของร่างกายอ่อนแรง แขน-ขากลายเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้ ผู้ป่วยกลายเป็นผู้ที่ต้องนั่งรถเข็นหรือนอนติดเตียง หากรุนแรงมากขึ้นอาจเกิดภาวะไตวายหรือหัวใจวายติดเชื้อทางเดินหายใจ ทางเดินปัสสาวะ โรคติดเชื้อในกระแสเลือด และโลหิตเป็นพิษ ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้

ดังนั้นการป้องกันการเกิดโรคสมองฝ่อ และแก้ไขสภาพของโรค รวมถึงการฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ด้วยการดูแลสุขภาพพื้นฐาน “ 5 อ.”

อ. ที่  1 ากาศ รับอากาศบริสุทธิ์บ่อยๆ

อ. ที่ 2 าหารและน้ำดื่ม รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้เพียงพอและดื่มน้ำที่สะอาดให้เพียงพอต่อร่างกาย

อ. ที่ 3 อกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง หรือเล่นกีฬาที่เหมาะสมอย่างพอดี

อ. ที่ 4 ารมณ์ ควบคุมอารมณ์ให้แจ่มใส และพักผ่อนให้เพียงพอ

อ. ที่ 5 อุจจาระ ขับถ่ายให้ปกติ ไม่ปล่อยให้ท้องผูก

ขอให้ทุกท่านสุขภาพดีและห่างไกลจากโรคสมองฝ่อครับ


ที่มา: หมอโฆษิต


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save