“จุฬาฯ จับมือ ฮาคูโฮโด (ไทยแลนด์) เปิดคอร์ส HIT PROGRAM มุ่งพัฒนาทักษะนักการตลาดยุคใหม่ให้นิสิต


คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ บริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในการเป็นพันธมิตรพัฒนาหลักสูตร “HIT PROGRAM” สำหรับนิสิตคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2566 เพื่อเสริมสร้างให้นิสิตเป็นผู้นำแห่งอนาคตในด้านการตลาดและแบรนด์ มีความสามารถสูง ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติ

ปัจจุบัน การเรียนในห้องอาจจะไม่ช่วยให้สมัครงานได้อีกต่อไป เมื่อนายจ้างหลายที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์นอกห้องเรียนมากขึ้น ส่งผลให้เด็กจบใหม่หลายคนเริ่มตกที่นั่งลำบาก จากความกังวลว่าจำนวนบรรทัดที่ช่องประสบการณ์ในเรซูเม่อาจจะไม่มากพอที่จะซื้อใจเจ้านายได้อีกต่อไป นอกจากความกังวลดังกล่าวแล้วนิสิตนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายที่ใกล้จะจบแล้วบางรายก็อาจจะมีความรู้สึกว่าสิ่งที่ได้เรียนไปนั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์ในแง่ของการใช้งานได้จริง รวมไปถึงบางคนที่ยังไม่ทราบถึงความต้องการในเส้นทางอาชีพของตนเองว่าแท้จริงแล้วชอบหรือสนใจสิ่งใด

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เล็งเห็นถึงปัญหานี้ จึงได้จับมือกับ บริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) เอเจนซี่ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ร่วมพัฒนาหลักสูตร “HIT PROGRAM” เพื่อใช้ในการสอนนิสิตคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2566 ในระหว่างวันที่ 12 มกราคม 2567 – 17 พฤษภาคม 2567

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ทางคณะฯ  โดยภาควิชาการตลาด ได้ให้ความร่วมมือกับองค์กรสำคัญระดับนานาชาติมายาวนาน เพื่อเสริมสร้างให้นิสิตเป็นผู้นำแห่งอนาคตในด้านการตลาดและแบรนด์ มีความสามารถสูง ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติ สำหรับความร่วมมือกับฮาคูโฮโดซึ่งเป็นองค์กรสำคัญในแวดวงการตลาดและการสื่อสารของโลกนั้นได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี และการลงนามในบันทึกความร่วมมือครั้งนี้จะยิ่งกระชับความร่วมมือของสององค์กรให้แน่นแฟ้นขึ้น

เทรุฮิซะ อิโต  ประธานบริษัทและผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์)  จำกัด  กล่าวว่า บริิษัทฯ มีความตั้งใจในการดำเนินงานตามปรัชญา 2 ข้อสำคัญของฮาคูโฮโด หนึ่งคือการเป็น พาร์ทเนอร์ หรือ การเป็นพันธมิตร ที่มองเห็นคุณค่าของการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้ง ซึ่งในบริบทนี้ ฮาคูโฮโดก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย และอีกข้อคือแนวความคิดที่เรียกว่า Sei-katsu-sha (เซ-คัทสึ-ฉะ) เป็นคำภาษาญี่ปุ่น มีความหมายว่า ความมุ่งมั่นที่จะเข้าใจ “ความเป็นอยู่ของผู้คน” มากกว่าจะมองเป็นเพียง “ผู้บริโภค” ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับภาควิชาการตลาด ด้วยเหตุนี้ ฮาคูโฮโดอินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จึงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างประโยชน์ต่อสังคมไทย โดยร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำของประเทศไทย  โดยหลักสูตร HIT PROGRAM (Hyperfocus, Integrate, Transform) นี้ พัฒนาขึ้นเพื่อนิสิตชั้นปีที่ 4 โดยเฉพาะ ผ่านการเรียนการสอนรวมตลอดทั้งปีการศึกษา 2/2566 รวมเป็น 16 ครั้ง ซึ่งจะเป็นการเรียนที่เจาะลึกความรู้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถนำไปใช้ได้จริง นับได้ว่าเป็นการขับเคลื่อนการศึกษา เพื่อการเรียนรู้โลกแห่งความเป็นจริง

ชุติมา  วิริยะมหากุล ผู้อำนวยการบริหาร จากบริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์)  จำกัด กล่าวว่า คอร์ส HIT PROGRAM นี้ ทา ฮาคูโฮโคได้ออกแบบให้เหมาะสมกับนิสิตปี 4 ของ Chulalongkorn Business School ที่จะช่วยผลักดันศักยภาพของนิสิต ด้วยการเชื่อมโยงวิชาที่นิสิตได้เรียนรู้เข้ากับประสบการณ์จริงผ่านผู้รู้ในหลากหลายอุตสาหกรรมและหลากหลายแบรนด์ ที่พร้อมนำความรู้มาถ่ายทอดและสร้างแบบฝึกหัดกับนิสิตอย่างเข้มข้น เพื่อเป้าหมายที่จะเสริมทักษะให้พร้อมทำงาน สนับสนุนให้นิสิตเกิดการค้นพบตัวเองและสร้างแรงบันดาลใจที่จะเข้าทำงานในสายงานที่เหมาะกับตัวเองอย่างแท้จริง

ยูโกะ อิโต กรรมการผู้จัดการ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฮาคูโฮโด ญี่ปุ่น ได้มีโครงการพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นที่หลากหลาย เช่น โครงการ BRANCO! ร่วมกับมหาวิทยาลัยโตเกียว เป็นการประกวดออกแบบแบรนด์ผ่านการวิจัยอย่างเข้มข้นเป็นระยะเวลา 6 เดือน ในโครงการนี้เราเน้นการร่วมมือพัฒนางานผ่านการตั้งคำถาม แบบที่ “ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบที่ถูกต้อง” ซึ่งจะทำให้นิสิตได้ฝึกวิธีคิดแบบเปิดกว้างติดตัวไปใช้กับมุมมองอื่น ๆ ในชีวิตด้วย

นอกจากนั้น ยังมีโครงการ Hakuhodo Youth Lab ที่วิจัยร่วมกับนิสิตมหาวิทยาลัย ในหัวข้อเกี่ยวกับ Sei-katsu-sha ซึ่งไม่ได้แค่ศึกษาว่า จะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่มาซื้อสินค้า แต่เราเน้นศึกษา ความเป็นอยู่ของผู้คน ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านสังคม ด้านธุรกิจ และด้านองค์กร ในหัวข้อที่สร้างความน่าสนใจ เช่น “ชีวิตแบบไหนที่เราควรสร้างในแบบของเรา” ซึ่งถือเป็นแล็บที่สนับสนุนนวัตกรรมทางความคิดให้กับนิสิตและยังนำไปสู่การประชุมร่วมกันในกลุ่มคนรุ่นใหม่บนมุมมองใหม่ ๆ อีกด้วย

โครงการต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น ล้วนมุ่งสร้างประสบการณ์และทักษะรอบด้านให้นักศึกษาทั้งสิ้น ผ่านกระบวนการศึกษาและวิจัยตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดสัมมนา การทำวิจัย ซึ่งนอกจากนักศึกษาจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ นอกห้องเรียนแล้ว ยังสามารถนำความรู้ที่มีอยู่มาปรับใช้ให้เข้ากับการทำงานในแต่ละขั้นตอน และในขณะเดียวกันทางคณะอาจารย์เองก็ได้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของการใช้ชีวิตที่น่าสนใจของกลุ่มนิสิตจากการทำงานอีกด้วย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด Chulalongkorn Business School ได้นำเสนอเรื่อง ‘Marketeers of the Future: นักการตลาดแห่งอนาคต’ สืบเนื่องมาจากที่โลกที่หมุนไปข้างหน้าตลอดเวลา ทำให้เทรนด์ต่าง ๆ จึงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ อย่างเช่นปัจจุบัน สิ่งที่ผู้บริโภคมองหาในสินค้าไม่ใช่ราคาที่สมเหตุสมผลอีกต่อไป แต่ลูกค้ายุคใหม่ต้องการสินค้าที่ตอบโจทย์ในเรื่องของสุขภาพ หลังจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจต่าง ๆ รวมไปถึงนักการตลาดเองต้องปรับตัวอยู่เสมอ

“ดังนั้นแล้ว องค์ความรู้เก่าอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องแล้วในตอนนี้ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงการรับมือและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตามความต้องการของลูกค้าเท่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่นักการตลาดยุคใหม่ควรมีทักษะ 5Re ดังนี้ Resilence (ความยืดหยุ่น), Resolution (เก่งแก้ปัญหา), Reliance (น่าเชื่อมั่นเชื่อถือ), Revolution (มุ่งหน้านวัตกรรม) และ Relationship (สร้างความสัมพันธ์กับสังคมและสิ่งแวดล้อม) เพื่อนำไปปรับเป็นทักษะให้สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันและชีวิตการทำงานในอนาคต และหลักสูตร ซึ่ง HIT PROGRAM จะตอบสนองทั้งห้าประเด็นนี้เพื่อสร้างสรรค์นักการตลาดแห่งอนาคตเพื่อสังคมไทยต่อไป” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ กล่าว

ทั้งนี้ ฮาคูโฮโด  อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์)  มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ไปกับนิสิตชั้นปีที่ 4 ด้วยการนำโครงการที่ประสบความสำเร็จจากญี่ปุ่นเข้ามาปรับใช้และร่วมพัฒนาการศึกษาไทยให้ดียิ่งขึ้นไปกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ที่ต้องการร่วมสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นกำลังสำคัญทางสังคมต่อไป


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save