อีสท์ วอเตอร์ เผยทิศทางธุรกิจปี’66 สานต่อความมั่นคงด้านน้ำภาคตะวันออก เพิ่มศักยภาพ Water Grid รองรับความต้องการน้ำที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ EEC


บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์ วอเตอร์  มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2566 บริษัทฯยังคงสานต่อการดำเนินธุรกิจสร้างความมั่นคงของการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศในพื้นที่ภาคตะวันออกและพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างเต็มที่ด้วยสมาร์ทเทคโนโลยี เดินหน้าเพิ่มศักยภาพโครงข่ายท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ หรือ Water Grid ที่สมบูรณ์ที่สุด รองรับการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า

เชิดชาย ปิติวัชรากุล

เชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์ วอเตอร์ กล่าวว่า อีสท์ วอเตอร์ อีสท์ วอเตอร์ ได้เข้ามาบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออกจากมติ ครม. วันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2535  ซึ่งปัจจุบันการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.)ถือหุ้นใหญ่ 40.20%  โดยสัดส่วนรายได้มาจาก ธุรกิจน้ำดิบ 64 %  น้ำประปา 31 % และ อื่นๆ 5 %  ปัจจุบัน อีสท์ วอเตอร์  มีทุนจดทะเบียน 1,664 ล้านบาท มีบริการธุรกิจน้ำครบวงจร  โดยมีบริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด (มหาชน) (UU) และบริษัทในเครือทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพในการบริหารกิจการประปา และบริหารระบบบำบัดน้ำเสีย ผ่านสัญญาสัมปทาน สัญญาจ้าง หรือสัญญาเช่าบริหาร

ในส่วนของแหล่งน้ำดิบที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุน อีสท์ วอเตอร์ ได้ดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่องครอบคลุมใน 3 จังหวัดของภาคตะวันออก ได้แก่ อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ อ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำดิบทับมา จังหวัดระยอง รวมไปถึงอ่างเก็บน้ำหนองค้อ และอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี ไปจนถึงแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจากแหล่งน้ำดิบดังกล่าว จะถูกสูบผ่านการส่งน้ำโครงข่ายท่อส่งนํ้าหรือ Water Grid ขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์ที่สุดในอาเซียน เพื่อนำไปสู่การให้บริการน้ำครบวงจรแบบเบ็ดเสร็จ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้น้ำทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการแหล่งน้ำดิบ ตามความต้องการใช้น้ำ การบริหารจัดการแหล่งน้ำดิบ การผลิตและจัดน้ำประปา น้ำอุตสาหกรรม รวมถึงการบำบัดน้ำเสีย และอื่น ๆ

“ทั้งหมดนี้คือ การให้บริการที่อีสท์ วอเตอร์ พร้อมให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการที่ทันสมัยอยู่เสมอ ทำให้สามารถบริหารจัดการน้ำทั้งระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนในการดูแลระบบ ลดการใช้พลังงาน ลดปริมาณน้ำสูญเสีย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ประเทศประหยัดทรัพยากรน้ำในระยาวได้มากยิ่งขึ้น”  เชิดชาย กล่าว

สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ.2566 บริษัทฯพร้อมเดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างเต็มที่ ด้วยการก่อสร้างระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง เพิ่มเติมอีกประมาณ 120 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 4,200 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนวางท่อส่งน้ำสายหลักในครั้งนี้ สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกในอีก 20 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มศักยภาพโครงข่ายท่อส่งน้ำ เกิดเป็นโครงข่ายท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ หรือ Water Grid ที่สมบูรณ์มากขึ้นโดยเชื่อมโยงแหล่งน้ำสำคัญในภาคตะวันออกเกือบทั้งหมด   คาดว่าการดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ.2566จะสร้างรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันในปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีความต้องการใช้น้ำในพื้นที่เพิ่มขึ้นจากสภาวะแห้งแล้งสภาพอากาศแปรปรวน  อย่างไรก็ตามต้องประเมินสถานการณ์การใช้น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิดประกอบการดำเนินธุรกิจด้วย

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีการผลิตน้ำอุตสาหกรรมที่ทันสมัยมาพัฒนาขีดความสามารถของระบบการทำงานพื้นฐาน ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการเกิดมลพิษ ให้บริการแก่ผู้ใช้น้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรม รวมถึงหน่วยราชการ เอกชน อย่างเข้าถึงและเพียงพอ ด้วยประสบการณ์การบริหารจัดน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกโดยบริษัทฯเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างเอง และเปิดให้บริการเชิงพานิชย์ในปี พ.ศ. 2564 ระบบผลิตน้ำอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ที่ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ใช้เทคโนโลยีการตกตะกอนแบบ External Sludge Return กำลังการผลิตสูงสุด 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งเป็นระบบการตกตะกอนแบบ External Sludge Return แห่งแรก และมีกำลังการผลิตสูงสุดของประเทศไทยในปัจจุบัน เทคโนโลยีดังกล่าวยังสามารถลดค่าไฟฟ้าในการผลิตลงกว่า 1 ใน 3 เมื่อเปรียบเทียบกับระบบตกตะกอนระบบกรองทั่วไป อีกทั้งยังสามารถลดปริมาณการใช้สารเคมีในการผลิตน้ำอุตสาหกรรม รวมถึงการใช้พื้นที่ก่อสร้างน้อยกว่าระบบตกตะกอน และระบบกรองแบบทั่วไปมากกว่าร้อยละ 5

เชิดชาย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้สร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง ได้นำแนวคิดการสร้างระบบน้ำสู่ความยั่งยืนด้วย 3W มาให้บริการแก่ผู้ใช้น้ำ ประกอบด้วย ขยาย Water Grid สู่ Water Network และเน้นการใช้น้ำทุกหยดอย่างคุ้มค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย Water Complex เพื่อสร้างความมั่นคงของระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำให้กับเศรษฐกิจของประเทศ มีการลงทุนเพิ่มเพื่อสร้างเสถียรภาพในระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำมูลค่ามากกว่า 22,000 ล้านบาท เกิดเป็นโครงข่ายท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ หรือ Water Grid ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ความยาวรวม 512 กิโลเมตร เชื่อมโยงแหล่งน้ำสำคัญในภาคตะวันออกเกือบทั้งหมด ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมพื้นที่ EEC ลดความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำในสภาวะภัยแล้งหรือฝนทิ้งช่วง นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำต้นทุน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อสร้างเสถียรภาพของแหล่งน้ำดิบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้น้ำในระยะเวลา 20 ปีข้างหน้า รวมทั้งให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อผู้ใช้น้ำของบริษัทฯทั้งในส่วนของภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภคประชาชนทั่วไป โดยวางแผนพัฒนายกระดับการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้น้ำให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้น้ำแต่ละรายอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้บริการธุรกิจน้ำครบวงจรทั้งน้ำดิบ น้ำประปา น้ำอุตสาหกรรม การบำบัดน้ำเสีย และการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่  เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพแก่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ทั้งใน และนอกพื้นที่ภาคตะวันออก

สำหรับอัตราราคาอุปโภคและบริโภคที่ทางบริษัทฯกำหนดราคานั้น มี 2 ราคาด้วยกัน คือ 1.ราคาสำหรับประชาชนทั่วไปที่ใช้อุปโภคบริโภคจะอยู่ที่ 9.90 บาทต่อลูกบาศก์เมตร 2.ราคาสำหรับภาคอุตสาหกรรม จะแบ่งออกเป็นพื้นที่ในส่วนปลวกแดง จังหวัดระยอง ราคา 11.50 บาท และพื้นที่จังหวัดชลบุรี ราคา 12.50 บาท ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับการส่งน้ำตามระยะทางตามกำหนด

ในส่วนผลตอบแทนแก่ภาครัฐ นอกเหนือจากการชำระค่าเช่าบริหารท่อในแต่ละปีให้แก่กรมธนารักษ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537-2564 ซึ่งเป็นไปตามสัญญาและอัตราที่กรมธนารักษ์กำหนด รวม 588 ล้านบาทแล้ว บริษัทฯมีการจัดสรรกำไรในแต่ละปี โดยได้จัดสรรปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไว้แล้ว หากคำนวณการปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภาครัฐร้อยละ 45 จะเป็นเงินจำนวนรวมประมาณ 5,500 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ กำหนดราคาจำหน่ายน้ำดิบที่สะท้อนต้นทุนให้ได้กำไรที่เหมาะสมต่อความสามารถในการนำไปใช้ในการลงทุนได้ต่อเนื่อง และสามารถที่จะจัดสรรปันผลตอบแทนต่อนักลงทุนในอัตราเหมาะสม ดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานความโปร่งใส บรรษัทภิบาลและความยั่งยืน รวมถึงการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อบรรลุเป้าหมายในการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อทุกภาคส่วน ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน จึงได้สนับสนุนงบประมาณด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน และสิ่งแวดล้อม กว่า 100 ล้านบาท ในช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมา

เชิดชาย  กล่าวถึงความคืบหน้าในการส่งมอบพื้นที่โครงการการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกให้กรมธนารักษ์ ประกอบด้วย 1.โครงการท่อส่งน้ำดอกราย ที่มาบตาพุด สัตหีบ จะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2566 2. โครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และ3.โครงการท่อส่งน้ำหนองค้อแหลมฉบัง (ระยะที่2)  ทั้ง 3 โครงการมีพื้นที่รวม 135.9 กิโลเมตร เพื่อให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ผู้รับสิทธิ์ดำเนินการรายใหม่เข้าไปดำเนินการแทนนั้น ขณะนี้บริษัทฯ ได้ทำแผนการส่งมอบพื้นที่ไปแล้ว แบ่งเป็นระยะ 30 วัน 60 วันและ 180 วัน นับจากวันที่หารือแล้วได้ข้อสรุป แต่ยังไม่ได้การตอบรับจากกระทรวงการคลัง

“ที่ผ่านมาบริษัทฯได้ร่วมหารือกับทางกรมธนารักษ์ไปแล้วอย่างน้อย 3 ครั้งเพื่อหาข้อสรุป แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุป เพราะยังมีพื้นที่บางส่วนที่ทับซ้อนกันอยู่จึงอยากให้เกิดความชัดเจนในการบริหาร เพื่อไม่ให้เกิดข้อพิพาทในอนาคตระหว่างบริษัทฯ กับทางกรมธนารักษ์และเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ใช้น้ำหลักในพื้นที่” เชิดชาย  กล่าวทิ้งท้าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save