กรุงเทพฯ : บริษัท กรีน เยลโล่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ลงทุนและดำเนินงานระดับโลกด้านการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และยูนิลีเวอร์ บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำระดับโลก ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนพลังงานสะอาด สะท้อนความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการโซลาร์เซลล์บนหลังคาที่โรงงานยูนิลีเวอร์ มีนบุรี นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ซึ่งได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว โดยคาดว่าโครงการนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1,544 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 34,000 ต้น
ในฐานะผู้ลงทุนและดำเนินงานด้านพลังงานแสงอาทิตย์ กรีน เยลโล่ มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการสนับสนุนองค์กรชั้นนำอย่างยูนิลีเวอร์ โดยกรีน เยลโล่ เป็นผู้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด พร้อมรับผิดชอบการบำรุงรักษาและควบคุมคุณภาพการผลิตไฟฟ้าตลอดอายุสัญญา เพื่อให้มั่นใจว่าระบบจะสามารถผลิตพลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง
ด้านยูนิลีเวอร์ ในฐานะพันธมิตรสำคัญ ได้สนับสนุนพื้นที่หลังคาโรงงานมีนบุรีสำหรับติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ขนาด 2.36 เมกะวัตต์พีค (MWp) โดยไม่คิดค่าเช่า พร้อมทำสัญญารับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมด ความร่วมมือนี้นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1,544 ตันต่อปี หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 34,000 ต้นแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจที่สามารถผสานประโยชน์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและการบริหารต้นทุนพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้กับองค์กรอื่นๆ ในการร่วมขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดต่อไป
แฟรงค์ คลุค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรีน เยลโล่ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า การผนึกกำลังกับยูนิลีเวอร์ บริษัทระดับโลกที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนนับเป็นก้าวสำคัญของกรีน เยลโล่ ในการขยายการให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค การริเริ่มโครงการความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเราในการส่งมอบโซลูชันด้านพลังงานที่ยั่งยืน แต่ยังเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในภาคอุตสาหกรรมของไทย โดยปัจจุบันกรีน เยลโล่ ได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำกว่า 75 รายในประเทศไทย ให้เป็นผู้ดูแลการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ กรีน เยลโล่ ได้ริเริ่มและดำเนินโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กับองค์กรชั้นนำในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ เนสท์เล่ เบทาโกร และทิปโก้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดในภาคอุตสาหกรรมไทย โดยมีกำลังการติดตั้งรวมกว่า 200 เมกะวัตต์พีค (MWp) และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้รวมกว่า 145,000 ตันต่อปี นับเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่การใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน