ญี่ปุ่น ร่วมมือกับ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติเพื่อสร้างสิ่งอํานวยความสะดวกในการกู้คืนซากปรักหักพังในพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวในตุรกี
ญี่ปุ่นร่วมมือกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้จัดตั้งโรงงานรีไซเคิลสองแห่งเพื่อกู้คืนเศษซากที่เกิดจากแผ่นดินไหวที่ทําลายล้างทางตอนใต้ของประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่งผลให้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2,921 คน และผู้บาดเจ็บ 15,834 คน จากการสั่นรุนแรงกว่า 7.8 ริกเตอร์
สำหรับความคิดริเริ่มความร่วมมือที่เรียกว่าโครงการความร่วมมือด้านความช่วยเหลือ Turkiya 2023 เป็นความพยายามร่วมกันของรัฐบาลญี่ปุ่นและUNDP โดยมีข้อตกลงที่สําคัญได้รับการลงนามอย่างเป็นทางการในพิธีที่จัดขึ้นโดยสถานทูตญี่ปุ่นในนครอังการา เมืองหลวงของตุรกี ซึ่งข้อตกลงนี้ลงนามโดยเอกอัครราชทูต คัตสึมาตะ ทากาฮิโกะ และ ลุยซา วินทัน เป็นตัวแทนของ UNDP ที่ตกลงกันว่าจะใช้งบประมาณทั้งหมดของโครงการมีมูลค่าถึง 130.6 ล้านลีราตุรกี (ราว 4.82 ล้านเหรียญสหรัฐ) และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในหนึ่งปี
หนึ่งในเป้าหมายหลักของงานนี้คือการรวบรวมและจัดเก็บเศษซากชั่วคราวรวมถึงวัสดุเช่นแร่ใยหินและของเสียอันตรายอื่นๆ เศษที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพจะถูกเก็บรวบรวมและเก็บไว้ชั่วคราวในจังหวัดฮาตาอิและคาฮารามารา ในประเทศญี่ปุ่น นอกจกานี้ยังมีการวางแผนที่จะกําจัดและจัดการเศษเหล่านี้ในภายหลัง รวมถึงการจัดตั้งสถานที่รีไซเคิลสองแห่งที่เชี่ยวชาญในการจัดการเศษขยะโดยเฉพาะ
คัตสึมาตะ ทากาฮิโกะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำตุรกี แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียชีวิตที่น่าเศร้าจากเหตุการณ์ดังกล่าว “เราสังเกตเห็นอันตรายต่อสุขภาพที่ประชาชนอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงและผู้ที่เข้าร่วมในการกําจัดเศษซากเนื่องจากมีแร่ใยหินและองค์ประกอบที่เป็นอันตรายอื่นๆ
“ด้วยความมุ่งมั่นในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านสุขภาพสำหรับเร่งกระบวนการกู้คืน ผมภูมิใจที่จะประกาศอย่างเป็นทางการว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้เงินสนับสนุน 700 ล้านเยน (ราว 170 ล้านบาท) แก่จังหวัดคาห์รามานมารัส และฮาไตที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว”
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์สองประการ ไม่เพียงแต่ช่วยในการกําจัดและกําจัดเศษซากที่เกิดจากแผ่นดินไหวในลักษณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้นแต่ยังช่วยในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมที่ยืดหยุ่นและยังสนับสนุนเศรษฐกิจของตุรกีให้เดินต่อไป
ความร่วมมือนี้ได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของกระทรวงสิ่งแวดล้อม การทําให้เป็นเมืองและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสาธารณรัฐตุรกี และ UNDP ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการจัดการขยะที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติโดยตรง
ข้อมูลจาก : dailysabah
ภาพจาก : AA Photo