กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ แกท อินเตอร์เนชั่นแนล จัดงาน SETA 2023และ Solar+Storage Asia 2023 ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและผลักดันการใช้พลังงานสะอาด


กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ บริษัท แกท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จัดงาน SETA 2023และ Solar+Storage Asia 2023 งานพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย ภายใต้แนวคิด “Driving Asia’s Energy Transition Pathways to Carbon Neutrality” ระหว่างวันที่ 17-18 สิงหาคม พ.ศ.2566 ที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและผลักดันการใช้พลังงานสะอาด และเดินหน้าสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero

ดร. สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์

ดร. สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า งานพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย หรือSETA 2023 (Sustainable Energy Technology Asia) และงานSolar+Storage Asia 2023  จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Driving Asia’s Energy Transition Pathways to Carbon Neutrality” ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยที่ต้องการบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี พ.ศ.2593และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ.2598 เป็นเวทีการจัดงานเพื่อรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนในภาคอุตสาหกรรมพลังงานในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันใช้พลังงานหมุนเวียน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างยั่งยืน การพัฒนาไฮโดรเจนสีเขียวซึ่งถือเป็นความท้าทายมากเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายการใช้งานในประเทศไทยและในภูมิภาค รวมทั้งการสร้างแพลตฟอร์มต่างๆที่เกี่ยวกับการรองรับตลาดพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงาน พร้อมเปิดพรมแดนความร่วมมือด้านพลังงานและโอกาสจับคู่ทางธุรกิจกับงานสัปดาห์พลังงานไทย-เกาหลี (Thailand-Korea Energy Week) โดยความร่วมมือของกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน กระทรวงเอสเอ็มอีและสตาร์ทอั ของประเทศเกาหลีใต้ภายในงานด้วย

งาน SETA 2023และ Solar+Storage Asia 2023

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนนโยบายด้านพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกภายในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลที่หาได้จากในปัจจุบัน ผลักดันการใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผลักดันการขนส่งทางถนนเป็นขนส่งด้วยระบบรางที่รัฐบาลกำลังก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนทางรางในแต่ละเส้นทาง รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และจัดทำแผนบริหารจัดการพลังงานรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรอบด้านตามแผนพลังงานชาติ

มร.โอบะ ยูอิชิ

มร.โอบะ ยูอิชิ รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย  กล่าวว่า  ปัญหาด้านพลังงานที่หายากและขาดแคลนในหลายๆประเทศส่งผลให้ราคาพลังงานสูงขึ้น ดังนั้นการเข้าร่วมในจัดงานSETA 2023และ Solar+Storage Asia 2023 ของผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทย เกาหลี และอื่นๆที่นำองค์ความรู้ แนวการจัดการพลังงาน การสร้างแพลตฟอร์มด้านพลังงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมในภูมิภาคและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาแลกเปลี่ยน ถ่ายทอดระหว่างกันจะช่วยทำให้การบริหารจัดการด้านพลังงานในภูมิภาคมีแนวคิด มีเสียงสะท้อนที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในแต่ละประเทศจะนำกลับไปทบทวนปรับใช้ อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้เกิดการต่อเชื่อมและขยายเครือข่ายธุรกิจและการเจรจาธุรกิจ เพิ่มโอกาสการลงทุนและเพิ่มเม็ดเงินในการลงทุนในภูมิมากมากยิ่งขึ้นด้วย

วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู

วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า พลังงานเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ และพลังงานจากฟอสซิลในปัจจุบันลดลง หายากและมีราคาแพง ทำให้กระทรวงพลังงานซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลด้านพลังงานได้จัดทำนโยบายการบริหารพลังงานให้สามารถนำมาใช้ได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ โดยคำนึงถึง ประชาชน สภาพแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้มีการทำแผนหลายๆหน่วยงานในสังกัดรองรับ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดจากโรงไฟฟ้าใหม่  การพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีระบบไฟฟ้า การเปิดเสรีจัดหาพลังงานสะอาดมาทดแทนน้ำมันเพื่อสร้างความมั่นคงของประเทศ สร้างสมดุลไปพร้อมๆกับการสร้างเทคโนโลยีด้านพลังงานรองรับการเปลี่ยนผ่านระหว่างผู้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมัน น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพและยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และที่สำคัญการทำแผนด้านพลังงานต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในสังคมสร้างพลังงานที่เข้มแข็งภายในประเทศก่อนนำเข้าเชื้อเพลิงพลังงานจากต่างประเทศให้คนไทยใช้พลังงานในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงาน SETA 2023และ Solar+Storage Asia 2023 ผู้เข้าร่วมงานที่เป็นผู้ประกอบการชาวไทยจะได้รับองค์ความรู้ด้านพลังงานนำไปใช้ในภาคส่วนธุรกิจด้านพลังงานต่างๆ เพื่อพัฒนาพลังงานของประเทศไทยให้ทัดเทียมในระดับสากล” วีรพัฒน์ กล่าว

ประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน

ประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ. ถือเป็นหนึ่งในองค์กรหลักด้านพลังงานของไทย โดยเฉพาะด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ภายใต้กลยุทธ์ “Triple S” คือ Source Transformation เพื่อเปลี่ยนแปลงแหล่งพลังงานของไทยจากแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่แหล่งพลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวล Sink Co-creation เพิ่มปริมาณการดูดซับกักเก็บคาร์บอน และ Support Measure Mechanism กลไกการสนับสนุนโครงการชดเชยและหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นรูปธรรม ผ่านการริเริ่มโครงการนำร่องใหม่ ๆ เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา โซลาร์ฟาร์ม โซลาร์ลอยน้ำ เทคโนโลยีการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) โครงสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและการใช้พลังงานจากไฮโดรเจน เป็นต้น

สำหรับไฮไลท์ในการจัดงานในครั้งนี้ คือการเข้าร่วมงานจากกูรูระดับแถวหน้าของวงการพลังงานทั่วโลกกว่า 100 คน มาร่วมวิสัยทัศน์ พร้อมตีแผ่ข้อมูลเชิงลึกครอบคลุมทุกประเด็นสำคัญ เพื่อให้ผู้ร่วมงานเตรียมพร้อมรับมือความท้าทายด้านความยั่งยืน เช่น  พลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บ (Solar+ Storage Forum) พร้อมชี้เทรนด์ในตลาดไทยและอาเซียน การประชุมผู้นำระดับสูงด้านพลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen, Ammonia and downstream options Forum) ร่วมจัดโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมแห่งญี่ปุ่น และสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย เจาะลึกบทบาทการใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจนและแอมโมเนียในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืน การประชุมยานยนต์ (Mobility Forum) เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ อัปเดตเทรนด์ล่าสุดด้านพัฒนาการและการใช้โซลูชันยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีแบตเตอรี่ สถานีชาร์จไฟฟ้า การเชื่อมโยงยานยนต์ไฟฟ้ากับโครงข่ายไฟฟ้า และโชลูชันยานยนต์รูปแบบอื่นๆ เพื่อความยั่งยืนในอนาคต การประชุมเทคโนโลยีพลังงานขั้นสูง (Advanced Energy Technology & Digital Power Forum) ร่วมจัดโดยบริษัทเทคโนโลยีและสถาบันพลังงานชั้นนำของโลก เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะการใช้เทคโนโลยีพลังงานขั้นสูงเพื่อสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ และการประชุมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy Forum) เวทีสำคัญของเอเชียที่บรรดาผู้กำหนดนโยบายผู้นำธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกจะร่วมอภิปรายหลักการและแนวปฏิบัติของเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ยั่งยืน

นอกจากนี้มีการเปิดพรมแดนด้านพลังงานเชื่อมโลกเข้าด้วยกันผ่านการจัดงานคู่ขนาน “งานสัปดาห์พลังงานไทย-เกาหลี (Thailand-Korea Energy Week)” โดยความร่วมมือของกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน กระทรวงเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัป ร่วมกับ สถาบันชั้นนำในธุรกิจพลังงานและเทคโนโลยีของประเทศเกาหลีใต้ เช่น  KEPCO, JEONNAM Technopark, Jeonnam Institute for Regional Program Evaluation (IRPE) และ Korea Smart Grid Institute (KSGI) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และขับเคลื่อนนวัตกรรมในภาคส่วนพลังงานและการค้าการลงทุน ผ่านการจับคู่ทางธุรกิจ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับหน่วยงานและผู้ประกอบการไทยที่จะได้พบปะ เจรจาธุรกิจ และเปิดประสบการณ์รับรู้เทคโนโลยีจากประเทศเกาหลีใต้เพื่อต่อยอดทางการค้าและการพัฒนาต่อไป ในงาน SETA 2023 และ Solar+Storage Asia 2023 ยังจะมีพิธีมอบรางวัล Power & Energy Award 2023 รางวัลระดับนานาชาติเพื่อยกย่องความสำเร็จของบุคคลและธุรกิจที่ผลักดันนวัตกรรมภาคพลังงานและไฟฟ้าอีกด้วย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save