กกพ. จับมือ กทม. ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน ติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” ให้โรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กทม.


สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างสำนักงาน กกพ. โดยมี คมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร โดย เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ ซึ่งมี นรินทร์ โอภามุรธาวงศ์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามฯ

โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่าง สำนักงาน กกพ. และกรุงเทพมหานครในการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับโรงพยาบาล ในสังกัดสำนัก การแพทย์ กรุงเทพมหานคร เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาล โดยในระยะที่ 1 สำนักงาน กกพ. ได้สนับสนุนการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร จํานวน 10 โรงพยาบาล ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 2,795 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามนโยบายคาร์บอนคุมได้ กทม. ปลอดคาร์บอน (Bangkok Metropolitan Administration: BMA Net Zero) ได้กว่า 2,200 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และคาดว่าจะลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลในสังกัด กรุงเทพมหานครได้ปีละ 14 ล้านบาท

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเล็งเห็นถึง ความสำคัญจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อประชาชน ในปี พ.ศ. 2561 กรุงเทพมหานคร ได้มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 43.71 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี จากกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การใช้พลังงานในอาคาร ภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรม การจัดการขยะและบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น ซึ่งโรงพยาบาลเป็นหนึ่งในประเภทอาคารที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าสูง และใช้ไฟฟ้าต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อการบริการด้านสาธารณสุขให้กับประชาชน การดำเนินงานร่วมกันในครั้งนี้จะสนับสนุนการขับเคลื่อน กรุงเทพมหานครไปสู่เมืองคาร์บอนต่ำ ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดความเสี่ยง ต้นทุน และความเสียหาย จากภัยพิบัติธรรมชาติ และสอดคล้องกับแผนแม่บทกรุงเทพมหานครว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2564 – 2573 โดยมีเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ไม่น้อยกว่า 19 % และได้กำหนดวิสัยทัศน์ ที่จะมุ่งไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593

นรินทร์ โอภามุรธาวงศ์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่าน มานับเป็นช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่สำคัญในการดำเนินการตามแผนที่นำทางการลดก๊าซเรือนกระจก ของประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือน กระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2608 ซึ่งประเทศไทยจะต้องเตรียมการรองรับ การปรับตัว รวมถึงมาตรการ ระหว่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เป็นมาตรการหนึ่งตามแผนพัฒนาการผลิตพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งกำหนดเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจาก พลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 8,740 เมกะวัตต์ ในปี พ.ศ. 2580 ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กกพ. และ กรุงเทพมหานคร ในการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

 


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save