สมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) ได้นำเสนอ “วิถีใหม่ของโครงข่ายไฟฟ้า มุ่งสู่พลังงานแห่งอนาคต“ ในงาน PEACON & Innovation 2022


เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 PEA ได้ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในประเทศและหน่วยงานวิจัยทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาและงานวิจัยด้านการพัฒนาธุรกิจพลังงานไฟฟ้า เพื่อสร้างนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นการยกระดับการไฟฟ้าให้ก้าวสู่การเป็นการไฟฟ้าแห่งอนาคต โดยได้ร่วมมือกันดำเนินการจัดงานประชุมวิชาการและนวัตกรรมของ กฟภ. ปี 2565 (PEACON & Innovation 2022) ณ ศูนย์ประชุมวายุภักดิ์ โรงแรมเซนทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ กรุงเทพ ฯ เพื่อเป็นเวทีสำคัญให้ นิสิต นักศึกษา อาจารย์ และนักวิชาการ รวมทั้งพนักงาน PEA ที่มีความรู้ความสามารถ ได้มีโอกาสนำเสนอบทความทางวิชาการ รวมทั้งยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนา ด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในอนาคตต่อไป

ดร.ประดิษฐพงษ์ สุขสิริถาวรกุล
ดร.ประดิษฐพงษ์ สุขสิริถาวรกุล เลขาธิการ สมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย)

ในการปาฐกถาพิเศษหัวข้อเรื่อง “ วิถีใหม่ของโครงข่ายไฟฟ้า มุ่งสู่พลังงานแห่งอนาคตดร.ประดิษฐพงษ์ สุขสิริถาวรกุล เลขาธิการ สมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) ชี้ให้เห็นถึง การขับเคลื่อนอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน ความมั่นคงทางพลังงาน และ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นตัวเร่งทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ได้กล่าวถึง สถานการณ์ของโลกในปี 2050 ที่ต้องการลดระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ให้ได้ภายในปี 2050 และพยายามจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส  การใช้พลังงานหมุนเวียนที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเพิ่มขึ้นถึง 80 %  ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่า 50 %  จะอยู่ในภาคอุตสาหกรรมประมาณ 20 PWh ภาคอาคารธุรกิจสำนักงานที่อยู่อาศัยประมาณ 15 PWh และภาคขนส่งประมาณ 10 PWh ความต้องการใช้อุปกรณ์ IoT จะเพิ่มขึ้นเป็น 24 พันล้านชิ้น  ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) คาดว่าจะสูงถึง 62 ล้านคันต่อปี

นวัตกรรมดิจิทัลและความปลอดภัยทางไซเบอร์จะเป็นตัวช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เช่น การพยากรณ์ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานหมุนเวียน โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) สำหรับการบริหารจัดการระบบโครงข่ายไฟฟ้าและการซื้อขายไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และลม การใช้ Machine Learning สำหรับการทำกลยุทธ์การเสนอราคา เพิ่มประสิทธิภาพการปฎิบัติการและการจ่ายกระแสไฟฟ้า การนำโรงไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าดิจิทัลมาใช้ ลดการใช้สายเคเบิล ติดตั้งได้เร็วขึ้น และนำอุปกรณ์นวัตกรรมดิจิทัลแบบเรียลไทม์ มาติดตั้งใช้งาน เพื่อดูข้อมูลสถานะและวิเคราะห์แก๊สในน้ำมันของหม้อแปลงไฟฟ้าอย่างอัจฉริยะ ตรวจสอบสภาพการรั่วไหลของแก๊ส SF6 ของ Gas Insulated Switchgear (GIS) การบันทึกแบบออนไลน์และวิเคราะห์ค่าแรงดันเกินของกับดักเสิร์จ ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่รวมองค์ประกอบของระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) จะช่วยเสริมความมั่นคงไฟฟ้า การนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รูปแบบใหม่มาใช้ในระบบสื่อสารของสถานีไฟฟ้าที่อาศัยปรากฏการณ์เชิงควอนตัมในการช่วยประมวลผลข้อมูลซึ่งจะส่งผลให้เกิดการประมวลผลที่เร็วกว่าคอมพิวเตอร์และมีความปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น การนำ Machine Learning มาใช้ในการวางแผนและจัดการดูการเจริญเติบโตของกิ่งไม้ ต้นไม้ ที่อยู่ใกล้แนวสายส่งไฟฟ้า อีกทั้งสามารถลดการลุกลามไฟป่า โดยใช้งานควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพจากดาวเทียม (AI Satellite Imagery Analysis) ด้วยระยะที่ใกล้เพียง 15 เซนติเมตร การนำเทคโนโลยีการถ่ายภาพ 3 มิติทำให้เห็นมุมมองภาพเสมือนจริงแบบเรียลไทม์ในโรงไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าเพื่อบริหารจัดการสำหรับการปฎิบัติการและบำรุงรักษา

การตั้งเป้าหมายของประเทศไทยเพื่อลดผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามแนวทางจากการประชุม COP26 มีประเด็นที่สำคัญคือ การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065  ศึกษาความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์และกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture Storage) โรงไฟฟ้าชุมชนและโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ BCG (Bio-Circular-Green) Economy ซึ่งสอดคล้องกับทั่วโลกที่มีการส่งเสริมการใช้พลังงานที่ไม่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) เราจะเห็น Large-scale eMobility เพิ่มขึ้นและเติบโตอย่างรวดเร็ว เราจะเห็นสถานีไฟฟ้ารถบัสในรูปแบบของ DC Grid เพื่อลดพื้นที่ ลดการใช้สายเคเบิล และควบคุมปัญหาคุณภาพไฟฟ้า ในหลายๆ ประเทศเริ่มมีการใช้งานและส่งเสริมให้มีการใช้ Greenhouse Gas ทดแทนการใช้แก๊ส SF6 ที่ทำให้เกิดปัญหาปล่อยก๊าซเรือนกระจกเฉลี่ย 0.22 % มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีเพื่อเป็นฉนวนไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงในสถานีไฟฟ้าและระบบส่งและจำหน่าย  การพัฒนาการผลิตและการใช้ไฮโดรเจนเพื่อเป็นพลังงานทางเลือกสำหรับอนาคต ใช้สำหรับภาคขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 30 %  และยังสามารถนำไปใช้กับเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ในการผลิตไฟฟ้าได้อีกด้วย จึงทำให้พลังงานไฟฟ้ากลายเป็นแกนหลักของระบบพลังงานทั้งหมด ในอนาคตอันใกล้ เราจะเห็น  Hydrogen Power Generator เข้ามาแทนที่ Diesel Generator ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง

งาน PEACON & Innovation 2022

เมื่อพลังงานหมุนเวียน กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยุดได้ ในปี 2050 กว่า 80 % ของการผลิตพลังงานไฟฟ้าจะมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล น้ำ และไฮโดรเจน ปัจจุบันมีเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย ที่รองรับและส่งเสริมการผลิตพลังานหมุนเวียน เช่น ถ้าเราต้องการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในพื้นที่ห่างไกลจากชายฝั่ง หรือการใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมกันที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนแบบข้ามประเทศหรือข้ามทวีป เราสามารถส่งพลังงานไฟฟ้าผ่านเทคโนโลยี HVDC (High Voltage Direct Current) โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องข้อจำกัดของกำลังไฟฟ้าสูงสุดที่จ่ายได้หรือความยาวของสายส่ง และมีประสิทธิภาพในการส่งสูงมากเมื่อเทียบกับการส่งแบบกระแสสลับ หรือการเริ่มนำระบบ MVDC (Medium Voltage Direct Current) และระบบ LVDC (Low Voltage Direct Current) มาใช้งาน นอกจากนั้นเรายังมีเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาคุณภาพไฟฟ้าในระบบ เช่น STACOM (Static Synchronous Compensator) ซึ่งใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลัง IGBT (Insulated Gate Bipolar Transistor) ในปัจจุบัน Power Electronics เข้ามามีบทบาทช่วยขับเคลื่อนระบบไฟฟ้าและพลังงานกว่า 70 % เพื่อควบคุมการไหลของกำลังไฟฟ้า และปรับปรุงเสถียรภาพของระบบในสภาวะชั่วครู่ (Transient Stability) เพื่อเพิ่มความมั่นคงหรือความสามารถของระบบที่จะสามารถทำงานต่อไปได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากที่เกิดเหตุขัดข้องที่รุนแรงขึ้นกับระบบ และเทคโนโลยีซิงโครนัสคอนเดนเซอร์ (Synchronous Condensers) ซึ่งสามารถช่วยสนับสนุนการทำงานที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ให้กับกริดหรือสายส่ง โดยการปรับสมดุล ลดความผันผวนของแรงดันไฟฟ้า และเพิ่มกำลังไฟฟ้าลัดวงจรให้สูงขึ้น นอกจากนั้น เรายังมีเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) จะช่วยลดความผันผวนของพลังงานทดแทนซึ่งทำให้เราจ่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้อย่างมีเสถียรภาพ หรือที่เราเรียกกันว่า Smoothing เป็นแหล่งกักเก็บพลังงานในช่วงความต้องการไฟฟ้าต่ำและจ่ายไฟฟ้าในช่วงความต้องการไฟฟ้าสูง (Energy Shifting หรือ Peak Shaving) การบริหารจัดการเกลี่ยโหลด (Load Leveling) การจัดเตรียมกำลังไฟฟ้าสำรอง (Spinning Reserve) ช่วยควบคุมและรักษาความถี่ของระบบไฟฟ้าให้อยู่ในเกณฑ์ (Frequency Regulation) นอกจากนั้นยังช่วยจัดการความแออัดของระบบส่ง (Congestion Management) ทำให้เราสามารถนำพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิถีใหม่ของโครงข่ายไฟฟ้า มุ่งสู่พลังงานแห่งอนาคต  ได้นำเสนอกรณีศึกษา Dalrymple ประเทศออสเตรเลีย การนำระบบควบคุมขั้นสูงมาจัดการและทำ Seamless Transition และ Grid Stabilization ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้และผลตอบแทนอย่างไร ?

พร้อมกับยกตัวอย่าง  Smart Island Porto Santo เป็นเกาะอยู่ในหมู่เกาะ Madeira ของโปรตุเกส มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 6,000 คน รัฐบาลโปรตุเกสได้ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ Porto Santo เป็นเกาะปราศจากฟอสซิลแห่งแรกของโลก และได้เปิดตัวโครงการ ” Porto Santo ที่ยั่งยืน ” ด้วยการเพิ่มการผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อใช้ภายในเกาะแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายก็คือ ธรรมชาติของพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมที่คาดเดาไม่ได้และไม่ต่อเนื่อง Groupe Renault ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายใหญ่ที่สุดของยุโรป ได้จัดหาแพลตฟอร์มการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่ยั่งยืนให้กับเกาะแห่งนี้ ซึ่งประกอบด้วยระบบ Ecosystem เต็มรูปแบบของโซลูชั่น EV ที่ใช้เทคโนโลยี Vehicle-to-Grid และแพลตฟอร์มการรวม (Aggregation Platform) เพื่อจัดการความยืดหยุ่นที่ EV และแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่ EV หมดอายุการใช้งานในครั้งแรก แบตเตอรี่เหล่านี้จะถูกกำจัดรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ อย่างไรก็ตามเมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่อาจยังคงรักษาความจุได้ถึง 70-80 เปอร์เซ็นต์ของความจุเริ่มต้น โซลูชั่นการกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) เป็นส่วนหนึ่งของระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะสำหรับ Porto Santo และรับประกันการใช้ประโยชน์จากศักยภาพในการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากลมและแสงอาทิตย์ของเกาะอย่างสมบูรณ์ การบูรณาการเพื่อนำแบตเตอรี่ EV มาใช้เป็นครั้งที่สองของ Groupe Renault กับโซลูชั่นการกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (BESS) ช่วยให้สามารถกักเก็บพลังงานส่วนเกินที่เกิดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนของเกาะได้ และนำพลังงานที่กักเก็บไว้ในแบตเตอรี่เหล่านั้น มาป้อนกลับเข้าสู่กริดของเกาะ ในช่วงที่มีความต้องการสูงสุดได้ด้วยความแม่นยำและชาญฉลาด

Grid Edge Solutions: Enabling the Future of Energy โอกาส ความท้าทาย New Businesses Models & Platforms ใหม่ๆ จะเกิดขึ้นมากมาย การบูรณาการพลังงานทดแทน (RE) ร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) โดยใช้ Digital Ecosystem ในการบริหารโครงข่ายและ Optimizing Energy ในทุกระดับ เพื่อ Maximizing ROI และสามารถที่จะมอนิเตอร์ได้ทั้ง Boardroom, Cloud และ On Premises (On Site)

Grid Forming Inverters (VSM: Voltage Source) ได้เข้ามามีบทบาท เป็น Grid Master สามารถทำงานในขณะ Weak Grids สามารถจะจัดการในขณะที่โหลดมีการเปลี่ยนแปลง โดยไม่เกิด Disturbances และสามารถทำงานในโหมด Stand-alone ได้

3 Trends : Electrification, Decentralization และ Digitalization จะเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง New Energy Ecosystem

มาตรการและการส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอน การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ EV และ E-mobility พลังงานไฟฟ้าจะเข้ามาเป็นแกนหลักของพลังงานในอนาคต

งาน PEACON & Innovation 2022

ดร.ประดิษฐพงษ์ สุขสิริถาวรกุล เลขาธิการ สมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) ยังชี้ให้เห็นถึงบทเรียนและประสบการณ์การใช้และการวางแผนเพื่อรองรับ EV ในอนาคต กรณีศึกษา My Electric Avenue Project (MEA) – UK ในการบริหารจัดการด้าน Supply Side Management ขยายระบบจำหน่ายและอุปกรณ์เพื่อรองรับการบริหารจัดการด้าน Demand Side Management เพื่อชะลอความต้องการที่เพิ่มขึ้นจาก EV เช่นลดค่าไฟฟ้าเมื่อชาร์จผ่าน Smart Charging  ที่ DSO ควบคุมได้ หรือสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าเลือกใช้ Smart Charging แทนการ Charge ปกติที่บ้าน

#PEACON2022 #IEEEPES #SmartGrid #GridEdgeSolutions


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save