กรุงเทพฯ : S&P Global ประกาศผลดัชนีความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ปี 2022 โดยกลุ่มทรู ยังคงครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ด้วยคะแนนประเมินรวมสูงสุด 93 จาก 100 คะแนน ประเภทตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของโลก โดดเด่นทั้งด้านการบริหารความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ การพัฒนาทรัพยากรบุคคล สิทธิมนุษยชน และการสร้างสรรค์นวัตกรรม และยังคงสถานะสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ 6 ปีซ้อน สะท้อนความเป็นผู้นำเทคโนโลยีดิจิทัลที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมจนเป็นที่ยอมรับระดับสากล ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ภายใต้กรอบ 3 H’s : Heart Health Home พร้อมเดินหน้ามุ่งสู่การเป็นเทคคอมปานี สร้างคุณค่าระยะยาว เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตคนในสังคมและขับเคลื่อนประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
มนัสส์ มานะวุฒิเวช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจอีกครั้ง ที่ปีนี้ กลุ่มทรู ยังคงได้รับการประกาศชื่อจาก S&P Global ผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเงินและการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่กลุ่มทรูสามารถสร้างประวัติศาสตร์ ได้คะแนนรวมสูงสุด อันดับ 1 ของโลก ประเภทตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ติดต่อกันถึง 5 ปีซ้อน การที่กลุ่มทรู ได้เป็นบริษัทโทรคมนาคมไทยรายแรกของโลกที่ครองแชมป์ต่อเนื่องและยาวนานที่สุดนี้ เป็นเสมือนองค์กรตัวแทนประเทศไทยที่ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนและเป็นไปตามมาตรฐานสากล จนเป็นที่ประจักษ์ในเวทีความยั่งยืนระดับโลก
สำหรับกุญแจสำคัญของความสำเร็จในครั้งนี้ เกิดจากการขับเคลื่อนธุรกิจโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม บนพื้นฐานหลักธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง โปร่งใส ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ตลอดจนนำศักยภาพจุดเด่นของทรูด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
“กลุ่มทรู จะยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายแห่งความยั่งยืน เพื่อก้าวสู่การเป็นเทคคอมปานีที่สามารถสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่สังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไทย ลดความเหลื่อมล้ำ และขับเคลื่อนประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน” มนัสส์ กล่าว
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับการประกาศผล DJSI 2022 นี้ กลุ่มทรู ได้คะแนนประเมินรวมสูงสุดถึง 93 จาก 100 คะแนน ใน Emerging Market กลุ่มโทรคมนาคม ซึ่งนับเป็นผลของความทุ่มเทจากพนักงานกลุ่มทรูทุกคน จึงทำให้ได้คะแนนอยู่ในระดับสูงทั้ง 3 ด้าน ตามหลักเกณฑ์การประเมิน ESG ทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อม (Environment) การดูแลสังคม (Social) และการมีธรรมาภิบาลทางธุรกิจ (Governance) โดยมีคะแนนโดดเด่นในเรื่องของการบริหารความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ การพัฒนาทรัพยากรบุคคล สิทธิมนุษยชน และการสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันขององค์กร และเป็นภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจสามารถเติบโตท่ามกลางความท้าทายใหม่ ซึ่งการเป็นที่ยอมรับในเวทีความยั่งยืนระดับโลกครั้งนี้ ตอกย้ำนโยบายและการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้านความยั่งยืนบนเส้นทางที่ถูกต้องภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 3 H’s ซึ่งประกอบด้วย Heart – มุ่งมั่นทำธุรกิจด้วยใจที่ยั่งยืน Health – มุ่งมั่นสร้างสังคมที่ยั่งยืน และ Home – มุ่งมั่นเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
สำหรับโครงการด้านความยั่งยืนที่กลุ่มทรู ได้ขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบ 3 H’s ได้แก่
- ด้านเศรษฐกิจ (HEART) ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และมีการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลโดยเฉพาะ
- ด้านสังคม (HEALTH) มุ่งเน้นดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม พัฒนาแพลตฟอร์ม True VWORLD ที่ครบทุกโซลูชันเพื่อการทำงาน การเรียนยุคดิจิทัล นอกจากนี้ ยังร่วมเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี องค์กรที่มุ่งส่งเสริมการศึกษาเยาวชนไทย และพัฒนาแอปพลิเคชัน MorDee (หมอดี) หมอประจำบ้านในมือคุณ ให้หาหมอออนไลน์ ได้ทุกที่โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล มีบริการส่งยาถึงบ้าน เคลมประกันได้ จบครบในแอปเดียว
- ด้านสิ่งแวดล้อม (HOME) ติดตั้งโซลาร์เซลล์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่เสาสัญญาณและชุมสายอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจก อันสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ทางตรงและทางอ้อม สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2573 และมุ่งสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593