“ราช กรุ๊ป” แจง Q1 ปี’65 รายได้เพิ่มขึ้น 109.7% เตรียมระดมทุนเพิ่มอีก 25,000 ล้านบาท รองรับการลงทุนธุรกิจผลิตไฟปีละ 700 MW


บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH แถลงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี พ.ศ. 2565 มีรายได้ 18,249.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.7% จากการเดินเครื่องเพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าราชบุรี รวมทั้งการรับรู้รายได้จากบริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) บริษัท Fareast Renewable Development Pte. Ltd. (FRD) จากเข้าซื้อหุ้นเพิ่มในโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน ประเทศอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว ประเทศอินโดนีเซีย

ชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถขับเคลื่อนเดินหน้าได้ตามแผนงาน ส่วนการบริหารสินทรัพย์ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงต้นทุนการผลิต ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาเชื้อเพลิง โดยมีการกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด จนปัจจุบันโรงไฟฟ้าต่างๆ สามารถลดและจำกัดผลกระทบในระดับที่ยอมรับได้ และยังรักษาอัตรากำไรไว้ได้

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาสที่ 1 ของ ปี พ.ศ. 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 18,249.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากการเดินเครื่องเพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าราชบุรี รวมทั้งการรับรู้รายได้จากบริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) บริษัท Fareast Renewable Development Pte. Ltd. (FRD) จากเข้าซื้อหุ้นเพิ่มในโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน ประเทศอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว ประเทศอินโดนีเซีย

ในส่วนของต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม จำนวน 17,298.34 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัท 1,579.36 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายการลงทุนในไตรมาสที่1 ปีพ.ศ.2565 ไปแล้วประมาณ 1,143.74 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง และโครงการโรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่น ในส่วนของฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 155,216.69 ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน 74,431.37 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 80,785.32 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งสะท้อนจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.61 เท่า และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 10%

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมที่จะดำเนินการระดมทุนเพิ่มอีก 25,000 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้กำหนดจำนวนหุ้นที่เสนอขายสุดท้าย 725,000,000 หุ้น ราคาเสนอขายต่อหุ้นสุดท้าย 34.48 บาท และอัตราส่วนการเสนอขายหุ้นสุดท้าย 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ กำหนดระยะเวลาจองซื้อหุ้นตั้งแต่วันที่ 6-10 มิถุนายน พ.ศ.2565

โดยเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้รองรับการขยายการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าในอนาคตตามแผนการดำเนินการลงทุนที่วางไว้ปีละ 700 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลัก ประมาณ 450 เมกกะวัตต์และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ไม่น้อยกว่า 250 เมกกะวัตต์และธุรกิจนอกการผลิตไฟฟ้า ปีละประมาณ 2,000 ล้านบาท เช่น ลงทุนธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลและโครงการ PPP ภาครัฐ รวมทั้งนำไปใช้ปรับโครงสร้างเงินทุน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทฯ

ชูศรี กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ.2565 นี้ว่า บริษัทฯ จะมีโรงไฟฟ้าจำนวน 5 แห่ง กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 1,166.58 เมกะวัตต์ เข้ามาเสริมรายได้ของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่ง โดย 2 แห่งได้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว ตั้งอยู่เมืองเปกันบารู จังหวัดเรียว ประเทศอินโดนีเซีย ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ถือหุ้นทางอ้อมผ่าน RHIS 49% ซึ่งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าแห่งประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 145.15 เมกะวัตต์ เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา รับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้าบริษัทฯในไตรมาส 1 ปี พ.ศ.2565 จำนวน 86.45 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง บริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมผ่าน Nexif Singapore 49% จำหน่ายไฟฟ้าให้กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี และจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมเอสเอสพี ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เดินเครื่องเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 45.08 เมกะวัตต์

ส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตัน ตั้งอยู่บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย กำลังการผลิตตามการถือหุ้นจำนวน 930.78 เมกกะวัตต์ ซึ่งจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าอินโดนีเซีย สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลาคงเหลือ 21 ปี หากดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2565 นี้ จะช่วยให้รายได้ของบริษัทฯ แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

สำหรับโรงไฟฟ้าที่กำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปีนี้ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว ประเทศอินโดนีเซีย กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 145.15 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าผู้ผลิตรายเล็กเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี จังหวัดระยอง 45.08 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานลมอีโค่วิน ประเทศเวียดนาม 15.16 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าราชโคเจนเนอเรชั่นส่วนขยาย 31.19 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตัน ประเทศอินโดนีเซีย 930 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนการลงทุนโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม ล่าสุดโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกอง 4A และ 4B กำลังการผลิตติดตั้งรวม 355 เมกะวัตต์ ใน สปป. ลาว ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) อนุมัติอัตราค่าไฟฟ้าของโครงการฯ และคาดว่าจะสามารถลงนามในบันทึกความเข้าใจการรับซื้อไฟฟ้า (Tariff MOU) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ในเร็วๆ นี้ โครงการนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำประเภท Reservoir มีอายุสัญญา 27 ปี ปริมาณเสนอขายไฟฟ้าให้ กฟผ. 347.30 เมกะวัตต์ และมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี พ.ศ.2576 ส่วนธุรกิจนอกภาคการผลิตไฟฟ้า บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการลงทุนในธุรกิจบริการสุขภาพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะสรุปได้ภายในปีพ.ศ.2565 นี้

ชูศรี กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมกำลังการผลิตตามการถือหุ้น ณ เดือนมีนาคม พ.ศ.2565 บริษัทฯ รับรู้กำลังการผลิตรวม 9,203.77 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังการผลิตภายในประเทศไทยจำนวน 59% หรือประมาณ 5,425.55 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตในต่างประเทศ 41% หรือประมาณ 3,778.22 เมกะวัตต์ ในต่างประเทศประกอบด้วย ประเทศออสเตรเลีย 13% หรือประมาณ 1,214.89 เมกกะวัตต์ สปป.ลาว 13% หรือประมาณ 1,207.30 เมกกะวัตต์ อินโดนีเซีย 13% หรือประมาณ 1,162.14 เมกกะวัตต์ เวียดนาม 2% ประมาณ 191.87% และญี่ปุ่น ประมาณ 2.02 เมกกะวัตต์ ในส่วนของกำลังการผลิตจำแนกตามประเภทเชื้อเพลิง ประกอบด้วย เชื้อเพลิงประเภทฟอสซิล 7,844.03 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงพลังงานทดแทน 1,359.74 เมกะวัตต์


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save