สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง (MEA) เดินหน้าโครงการติดตั้งโซลาร์รูฟให้อาคารต่างๆ ของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน รองรับการใช้พลังงานไฟฟ้าของอาคารสำนักงานทั้งหมด ช่วยรัฐประหยัดค่าไฟ ปีละ 1.78 ล้านบาท รวมตลอดโครงการประหยัดไฟได้ประมาณ 21 ล้านบาท และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปีละกว่า 500 ตัน เทียบเท่าปลูกต้นไม้ปีละ 295 ต้น
![จาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจ MEA และรศ.ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน](https://www.greennetworkthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/SLRI-MEA-Solar-Roof-02.jpg)
รศ.ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน และจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้านครหลวง ร่วมลงนามในสัญญาให้บริการโครงการติดตั้งและบำรุงรักษาอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน หรือพลังงานทางเลือก ในพื้นที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) วันที่ 19 มีนาคม 2567 ณ อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่คลองเตย
จาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ มีหน้าที่ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐด้านพลังงานหมุนเวียน พร้อมให้ความร่วมมือทุกภาคส่วนส่งเสริมดำเนินตามนโยบายภาครัฐ ล่าสุดได้ร่วมมือกับ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) โดย MEAให้บริการการติดตั้ง Solar Rooftop ขนาด 911.90 kWp จะทำให้ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลประมาณ 1,180.93 MWh/ปี ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 1.78 ล้านบาท/ปี คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 519.73 tonCo2/ปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นสักประมาณ 295.30 ต้น/ปี ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวยังเป็นไปตามเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 เพื่อบรรลุเป้า Net Zero Emissions ภายในปี ค.ศ. 2065 ตามแผนพัฒนาพลังงานของประเทศ
ด้านรศ.ดร.สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า สถาบันฯ ได้รับนโยบายรัฐบาลที่ให้หน่วยงานราชการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการใช้ไฟฟ้า กอปรกับการไฟฟ้านครหลวงมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีจำหน่ายกระแสไฟฟ้าด้วยระบบการใช้พลังงานทดแทน นำมาสู่การลงนามร่วมสัญญาการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ขนาด 911.90 กิโลวัตต์สูงสุด (kWp) ในพื้นที่อาคารสิรินธรวิชโชทัย และอาคารปฏิบัติการแสงสยาม ซึ่งจะให้พลังงานไฟฟ้าที่ครอบคลุมการใช้งานของอาคารสำนักงานทั้งหมด
“โครงการที่จะเกิดขึ้นนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีของสถาบัน ฯ ที่จะได้มีส่วนร่วมในการใช้พลังงานทางเลือกที่ยั่งยืน และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สนับสนุนและขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักสากล ซึ่งยังส่งผลให้ลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากต่างประเทศ และที่สำคัญจะเป็นการดำเนินการตามแนวนโยบายแห่งรัฐ และกระทรวง อว. เรื่องการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า และยังสอดคล้องกับนโยบายเพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนตามเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้า Net Zero Emissions ภายในปี ค.ศ. 2065 ซึ่งโครงการฯ นี้ ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของทั้งสองหน่วยงาน โดยมุ่งเน้นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ สอดคล้องกับรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Economy Model ในด้าน Green Economy หรือ เศรษฐกิจสีเขียว ที่คำนึงถึงการดำเนินกิจกรรมขององค์กรที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ ลดภาวะโลกร้อน และเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อประโยชน์ต่อทั้งสถาบัน ฯ สังคม ประชาชน และโลกของเรา” รศ.ดร.สาโรช กล่าว