“ททท.” จับมือ “AWC” และพันธมิตร หนุนไทยก้าวสู่การเป็น “จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก”


กรุงเทพฯ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผนึกกำลัง บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย และพันธมิตร เดินหน้ายกระดับมาตรฐาน “SHA”  มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism) พร้อมสนับสนุนประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก (Sustainable Destination) โดย AWC ได้ประกาศกรอบการดำเนินงานและเป้าหมายด้านความยั่งยืนขององค์กร สานต่อความมุ่งมั่นในพันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. เล็งเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว สอดคล้องกับการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวยั่งยืน หรือ Sustainable Tourism โดย ททท. มุ่งพัฒนาต่อยอดแนวคิดจากฐานความเข้มแข็งเดิมที่มีอยู่ ด้วยการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration หรือ SHA ให้สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืนมากยิ่งขึ้น  พร้อมตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางในการรวมพลังและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีการดำเนินงานอย่างยั่งยืน รวมถึงกำหนดแนวทางมาตรฐานใหม่ให้แก่สถานประกอบการได้นำไปปฎิบัติใช้ตามกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับสากลที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตในมิติด้านสิ่งแวดล้อม (การลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน การจัดการน้ำ และการจัดการของเสีย) ด้านเศรษฐกิจชุมชน รวมถึงด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น ภายใต้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก

ทั้งนี้ ททท. อยู่ระหว่างการวางกรอบการดำเนินงานยกระดับมาตรฐาน “SHA” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน โดยตั้งเป้าที่จะเชิญชวนและสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยมารวมพลังดำเนินงานตามกรอบของการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อวางรากฐานให้ประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนในระดับโลกอย่างเป็นรูปธรรมและมีคุณภาพตามมาตรฐานสากลต่อไปในอนาคต

“ประเทศไทยจะต้องเป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคนต้องคิดถึง โดยวางแผนให้จุดหมายปลายทางสู่ความยั่งยืน  ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ของโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น พร้อมกับมาตรฐาน 5 ลด ได้แก่ 1.ลดการใช้ Single Use Plastic 2.ลดการใช้สินค้าบางรายการที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ 3.ลดการใช้แพกเกจจิ้งที่ไม่ยั่งยืน 4.ลด Food Waste และ5.ลดการใช้พลังงาน  เช่นเดียวกับการลดคาร์บอน โดยมีโครงการที่ททท.ร่วมกับโรงแรมจัดทำเป็น Carbon Score เพื่อนำไปสู่ Carbon Neutrality  ทำให้ไทยมีภาพลักษณ์ของการจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของการเป็นมาตรฐาน SHA ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ไทยเป็น Sustainability Destination ของโลก” ยุทธศักดิ์  กล่าว

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC  กล่าวว่า AWC เป็น Lifestyle Real Estate   ปัจจุบัน พอร์ตโฟลิโอของ AWC ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ 19 แห่ง   กลุ่มศูนย์การค้า 9 แห่ง กลุ่มอาคารสำนักงาน 4 แห่ง และกลุ่มธุรกิจค้าส่ง 2 แห่ง รวม 34 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการใหม่อีก 15 โครงการ  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา AWC มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ความอย่างยั่งยืนตลอดกระบวนการดำเนินงาน และโครงการต่างๆ ของ AWC    โดยโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล   เป็นโรงแรมแห่งแรกของโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 20121 ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านการจัดงานอย่างยั่งยืน

AWC ได้ตอบรับนโยบายกับทาง ททท. พันธมิตรทางภาครัฐ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันและเป็นศูนย์กลางรวบรวมผู้ประกอบการทั้งหมดมาร่วมสร้างคุณค่าให้กับการท่องเที่ยวยั่งยืนของไทยไปด้วยกัน รวมทั้ง AWC ได้ร่วมวิสัยทัศน์ความยั่งยืนกับพันธมิตรภาคเอกชน สถาบันการเงินชั้นนำ และเครือโรงแรมระดับโลก อาทิ เครือแมริออท บันยันทรี โอกุระ ฮิลตัน IHG และมีเลีย ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวยั่งยืนและร่วมผลักดันเพื่อสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงภาคประชาสังคมและชุมชนในโครงการต่างๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อความยั่งยืนในระยะยาว    โดยAWC และพันธมิตรจากภาคส่วนต่างๆ ที่จะร่วมผนึกกำลังสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนร่วมกันในกรอบการดำเนินงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน 3 เสาหลัก 6 มิติ หรือ 3BETTERs  ประกอบด้วย

  • สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น (BETTER PLANET) การผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการดำเนินธุรกิจตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตั้งแต่กระบวนการวางแผนและก่อสร้าง การจัดการ และการบริหารงาน ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรในการบูรณาการกรอบแนวคิดในระดับสากลเข้ามาใช้ในการพัฒนาโครงการตามมาตรฐานอาคารสีเขียว ทั้งผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ ผู้รับเหมา ที่ปรึกษาโครงการ และอื่นๆ ต่อเนื่องถึงพันธมิตรในด้านการจัดการและบริหารการดำเนินงานที่จะรวมพลัง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (BETTER PEOPLE) การพัฒนาบุคลากรทั้งภายในและภายนอกองค์กร การยกระดับการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมและชุมชน ผ่านความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นในการเสริมสร้างความรู้และพัฒนาอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืนผ่านโครงการ “เดอะ GALLERY” ที่จัดจำหน่ายสินค้าฝีมือคนในชุมชน อีกทั้งยังเป็นช่องทางที่ช่วยชุมชนเพิ่มมูลค่างานศิลปะ ซึ่ง AWC ต้องการเพิ่มจำนวนสินค้ามากขึ้น จากเดิมมีสินค้าจากจังหวัดลำพูน พะเยา  สระบุรีและเชียงใหม่   เป็น Social Enterprise เพื่อนำมาจำหน่ายผ่าน Omni Channel และทางออนไลน์    รวมทั้งผ่านโครงการต่างๆ ของ AWC ซึ่งจะทำการตลาดถึงลูกค้าจากทั่วโลก
  • เศรษฐกิจที่ดีขึ้น (BETTER PROSPERITY) การผลักดันให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและกระตุ้นความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยวางแผนกลยุทธ์องค์กรให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผ่านการลงทุนพัฒนาบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลายของบริษัทฯ สร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชนและธุรกิจท้องถิ่น สร้างคุณค่าทวีคูณและธุรกิจองค์รวม (Ecosystem) ที่แข็งแกร่ง เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก อีกทั้งส่งเสริมให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด

วัลลภา กล่าวว่า  AWC ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการภายใต้แผนกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเตรียมเปิดตัวโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล ซึ่งจะเป็นไฮไลท์ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ในต้นปีหน้า รวมทั้งโรงแรม อินน์ไซด์ กรุงเทพ สุขุมวิท ซึ่งถือเป็นโครงการที่ก่อสร้างโดยคำนึงถึงมาตรฐานอาคารสีเขียว และได้รับการรับรองมาตรฐาน EDGE เตรียมเปิดให้บริการภายในต้นปีหน้าเช่นกัน   พร้อมตั้งเป้าให้โครงการอควาทีค เดอะบีชฟรอนท์ พัทยา ได้รับการรับรอง LEED ภายในปี 2569 และตั้งเป้าโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ส่วนต่อขยายให้ได้รับการรับรอง LEED & WELL ภายในปี 2572

“AWC ตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และไม่มีขยะฝังกลบจากการดำเนินงาน ในปี 2030 ซึ่งใช้เวลาเพียง 8 ปีเท่านั้น  ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมาก   โดย AWC จะผลักดันแผนกระบวนการทำงาน Circular Economy พร้อมกับแผน  Zero Waste Landfill 2030  ผ่านการทำงานร่วมกับผู้ผลิต และผู้ขาย พันธมิตรทุกภาคส่วนและเครือโรงแรมระดับโลก รวมทั้งบรรจุแผนดังกล่าวในแผนธุรกิจ 5 ปีของ AWC  ตั้งแต่ปี 2565-2569 อีกด้วย” วัลลภา กล่าวสรุป


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save