ช่วงเข้าฤดูฝนของทุกปีจะมีการระบาดของไข้เลือดออก ซึ่งมียุงเป็นพาหะ โดยเฉพาะยุงลายนำเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคไข้เลือดออก และระบาดในชุมชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะชุมชนแออัดยิ่งมีโอกาสแพร่เชื้อและสร้างความเสียหายให้กับผู้อาศัยในชุมชนนั้นได้ เกิดปัญหาและสร้างความเดือดร้อนในด้านสาธารณะสุขทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทุกวัยอายุ
เมื่อมีฝนตกชุก บรรยากาศและสภาพแวดล้อมมีความชื้น แฉะ เปียกน้ำ มีการรวมตัวและกักตัวของแอ่งน้ำต่างๆ ทำให้ยุงมีการแพร่กระจายมากขึ้น มีการวางไข่ของยุงตามแอ่งน้ำหรือที่มีท่วมขังกลายเป็นลูกน้ำและเจริญเติบโตเป็นยุงที่บินกระจายทั่วหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ เมื่อยุงที่มีเชื้อไวรัสไข้เลือดออกมากัดเด็กหรือผู้ใหญ่จะทำการปล่อยเชื้อไวรัสไข้เลือดออกเข้าสู่ร่างกายจนเกิดเป็นโรคระบาดของไข้เลือดออก
อาการของโรค หลังจากได้รับเชื้อแล้ว มีระยะเวลาฟักตัวประมาณ 5-7 วัน ผู้ป่วยมีอาการเป็นไข้ขึ้นสูง 39 °C – 40 °C (ปกติอุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 37 °C) กินยาลดไข้ พักผ่อนหรือดูแลร่างกายอย่างดี ไข้ยังคงไม่ลด เมื่อย่างเข้าสู่วันที่ 5 ไม่เกินวันที่ 7 เริ่มมีจ้ำหรือจุดแดงๆ ขึ้นทั่วตัว อาจจะกระจายมาถึงใบหน้าด้วย แสดงว่ามีการแตกตัวของเส้นเลือดฝอยเล็กๆใต้ผิวหนัง ร่างกายอ่อนแอมากขึ้น รับประทานอาหารได้น้อย นอนหลับได้ไม่เต็มที่ ผู้ป่วยบางรายมีอาการรุนแรงมากขึ้น อาจเจ็บคอร่วมไปกับการไอ มีการติดเชื้อทางเดินหายใจร่วมด้วย เกิดภาวะช็อคและเสียชีวิตได้ ในแต่ละปีที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกมักเกิดกับผู้ป่วยเด็กตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงเด็กโต เนื่องจากเด็กยังไม่สามารถดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากการกัดของยุง
การป้องกันและการแก้ไข ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องระวังอย่าให้ยุงกัด และต้องทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง กำจัดบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง กำจัดแหล่งน้ำที่ยุงจะไปวางไข่ การฉีดพ่นยาฆ่ายุงบริเวณบ้าน นอกบ้าน ใต้ถุนบ้าน การทำมุ้งลวดประตูและหน้าต่างบ้าน การกางมุ้งนอนมิให้ยุงมารบกวนหรือมากัดทุกๆคนในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กเล็กและเด็กโต การดูแลร่างกายให้แข็งแรงเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานร่างกายแข็งแรง เพื่อป้องกันและกำจัดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกมิให้ทำอันตรายต่อร่างกาย และเมื่อมีอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น เป็นไข้ตัวร้อน ทานยาลดไข้แล้ว 3-5 วัน ไข้ยังไม่ลง อาจมีขึ้นจ้ำหรือจุดแดงๆหรือไม่มีจ้ำหรือจุดแดงๆตามร่างกายก็ตาม ควรพบแพทย์เจาะเลือดตรวจดูว่าเป็นเชื้อไวรัสไข้เลือดออกหรือไม่ เพื่อแพทย์ได้รักษาอย่างถูกต้อง ผู้ป่วยจะได้หายป่วยและลดอันตรายจากโรคไข้เลือดออกอย่างปลอดภัย
โรคนี้ไม่ติดต่อจากคนสู่คน มียุงเป็นพาหะนำเชื้อให้เกิดโรคไข้เลือดออก
ที่มา: หมอโฆษิต