กรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งแรกปี’66 เฉลี่ย156.74 ล้านลิตรต่อวัน เตรียมนำกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ตั้งแต่ 21 ก.ค.นี้


กรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ.2566-มิถุนายน พ.ศ.2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 156.75 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2565 ร้อยละ 2.7 โดยใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.96 ล้านลิตรต่อวัน และการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 72.30 ล้านบาทต่อวัน ทั้งนี้คาดว่าภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดทั้งปี พ.ศ.2566 จะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและการปรับตัวของธุรกิจที่พึ่งพาการขนส่งมากขึ้น

6cb742

นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรก ของปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน พ.ศ. 2566  เฉลี่ยอยู่ที่ 156.74 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2565 ร้อยละ 2.7 โดยใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.96 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2566 ร้อยละ 5.9 และใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 72.30 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2565 ร้อยละ 3.7 ด้วยปัจจัยด้านราคา ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง โดยภายหลังจากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตร ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 จะอาศัยกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

ส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.45 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2565ร้อยละ 80.9 จากการฟื้นตัวของการเดินทางทางอากาศภายหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย การใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เฉลี่ยอยู่ที่ 17.69 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีพ.ศ.2565 ร้อยละ 1.4 ส่วนใหญ่มาจากการใช้ลดลงในภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีร้อยละ 4.2 การใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2565 ร้อยละ 3.0 และการใช้น้ำมันเตา ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีพ.ศ.2565 ร้อยละ 5.7

กรมธุรกิจพลังงาน

สำหรับภาพรวมการนำเข้าและส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงครึ่งปีแรก ของปี พ.ศ.2566 นั้น การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงปริมาณนำเข้าเชื้อเพลิงรวม 1,069,944 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 จากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2565 ส่วนมูลค่าการนำเข้าในช่วงครึ่งปีแรก ของปี พ.ศ.2566 อยู่ที่ 94,882 ล้านบาทต่อเดือน ลดลงร้อยละ  14.2 จากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2565  ด้านการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงครึ่งปีแรก ของปี พ.ศ.2566 ปริมาณส่งออกรวม 155,274 บาร์เรลต่อวัน  ลดลง ร้อยละ 10.51 ส่วนมูลค่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก ของปี พ.ศ.2566 อยู่ที่ 15,114 ล้านบาทต่อเดือน ลดลงร้อยละ 32.0 จากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2565

นันธิกา กล่าวถึงการคาดการณ์ของการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงครึ่งปีหลังของปี พ.ศ.2566  (ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม -ธันวาคม พ.ศ.2566) ว่า  กรมธุรกิจพลังงานคาดว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ.2565ร้อยละ 2 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการปรับตัวของธุรกิจที่พึ่งพาการขนส่งมากขึ้น โดยน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 ปริมาณการใช้เฉลี่ยต่อวัน ที่ 31.44 ล้านลิตร การใช้น้ำมันดีเซลปรับลดลงร้อยละ 1.9 จะใช้น้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 69.66 ล้านลิตรต่อวัน การใช้น้ำมันอากาศยาน JET A1 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.6 จะใช้น้ำมันเฉลี่ยวันละ 13.66 ล้านลิตร การใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7  จะใช้ LPG เฉลี่ยต่อวัน ประมาณ 18.20 ล้านกิโลกรัม การใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เฉลี่ยใช้ NGV ต่อวัน ประมาณ 3.52 ล้านกิโลกรัม และการใช้น้ำมันเตาลดลงร้อยละ 19.7 จะใช้น้ำมันเตาต่อวันประมาณ 5.14 ล้านลิตรและคาดว่าภาพรวมทั้งปีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งแรกปี’66

สำหรับการแก้ไขปัญหาระบบการค้าและความปลอดภัยก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน หรือ (ก๊าซหุงต้ม) กรมธุรกิจพลังงานโดยคณะทำงานแก้ไขปัญหาก๊าซปิโตรเลียมเหลวในภาคครัวเรือน ร่วมกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทาน ประกอบด้วยผู้ค้าที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องในกรมธุรกิจพลังงานอยู่แล้ว 13 บริษัทและร้านจำหน่ายปลีกย่อยอื่นๆ เพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน ประกอบด้วย

1.กำหนดมาตรฐานและคุณภาพถังก๊าซหุงต้ม  โดยกรมธุรกิจพลังงาน ผู้ค้าก๊าซหุงต้ม และผู้แทนโรงบรรจุและร้านจำหน่าย ร่วมกันพิจารณาเกณฑ์การคัดสภาพถังกลาง เพื่อใช้เป็นแนวทางดำเนินการร่วมกัน พร้อมทั้งขอให้โรงบรรจุรับคืนถังเสื่อมสภาพจากร้านจำหน่าย เพื่อส่งผู้ค้าก๊าซหุงต้มดำเนินการต่อไป

2.มาตรการด้านกฎหมายความปลอดภัยโรงบรรจุและร้านจำหน่าย จัดทำขั้นตอนการตรวจตราและบันทึกการตรวจสอบ พร้อมซักซ้อมความเข้าใจสำนักงานพลังงานจังหวัดทั่วประเทศ

3.มาตรการด้านกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานความร่วมมือสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกรมทรัพย์สินทางปัญญา (ทป.) จัดทำขั้นตอนการดำเนินการเมื่อพบถังไม่ได้คุณภาพ ถังปลอมแปลงและอื่นๆ ทั่วประเทศ

4.การร้องเรียนและการสื่อสารประชาสัมพันธ์ จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อยู่ระหว่างหารือผู้ค้าก๊าซหุงต้ม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดตั้ง Hotline รับเรื่องร้องเรียนต่างๆ คาดจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนกันยายน พ.ศ.2566

5.การเพิ่มประสิทธิภาพการเรียกเก็บและการซ่อมถังก๊าซหุงต้ม กรมได้ขอความร่วมมือผู้ค้าก๊าซหุงต้มที่มีศักยภาพซ่อมถัง ให้เปิดรับบริการผู้ค้าก๊าซหุงต้มรายอื่น เพื่อลดข้อจำกัดการขนส่งและระยะเวลาการซ่อมให้มีการซ่อมถังข้ามแบรนด์ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานของ สมอ. 151-2539 การใช้และซ่อมบำรุงถังก๊าซปิโตรเลียมเหลว กำหนดการบรรจุก๊าซลงถัง วาระการตรวจสอบ ลักษณะหรือข้อบกพร่องที่เป็นข้อห้ามการใช้งานของถังเมื่อมีการตรวจสอบ ตลอดจนการประสานความร่วมมือเรียกเก็บถังทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ ซึ่งแนวทางอยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดร่วมกับผู้ค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการภายในเดือนตุลาคม พ.ศ.2566

6.การแก้ไขปัญหาการลักลอบเติมถังก๊าซหุงต้มในสถานีบริการ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและลดการกระทำผิด กรมธุรกิจพลังงานได้กำหนดอัตราปรับเต็มขั้นคืออยู่ที่ 50,000  บาทต่อครั้ง จากที่ปรับขั้นต่ำ 25,000 บาท  และกำชับพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ออกตรวจตราเข้มข้นมากขึ้น นอกจากนี้กำลังพิจารณาตามระเบียบราชการให้รางวัลสินบนนำจับแก่ประชาชนที่แจ้งเบาะแสผู้ลักลอบเติมถังก๊าซหุงต้มในสถานีบริการและในสถานที่อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสจะได้เงินรางวัลนำจับ 25%ของอัตราค่าปรับต่อครั้ง เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกันทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบ

“ในส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการน้ำมันอากาศยานที่ยั่งยืนของภาคการบิน Sustainable Aviation Fuel:SAF) ทางกรมธุรพลังงานได้ตั้งคณะทำงานในการทำการศึกษาในเบื้องต้นในแผน Oil Plane และอยู่ระหว่างการเจรจาให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการ SAF กับทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อให้การสนับสนุนถึงผู้ประกอบการ SAF นอกเหนือจาก ผู้ประกอบการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งคาดว่ามีผู้ประกอบการ SAF ที่สนใจเพิ่มเติมรอรับการส่งเสริมประมาณ 2-3 บริษัท เนื่องจากสถานการณ์การบินเริ่มกลับมาฟื้นตัวการเดินทางมีจำนวนผู้โดยสารมากขึ้นและการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมการบินลงได้ นั้นเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกให้การส่งเสริมและสนับสนุนด้วย” อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวทิ้งท้าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save