กรุงเทพฯ – 2 กุมภาพันธ์ 2566 : กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) แถลงข่าวสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 และมาตรการแก้ไขปัญหา ณ ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบฝุ่นละออง PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐานจนอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพในหลายพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพมหานคร จังหวัดปริมณฑล 17 จังหวัดภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในบางพื้นที่อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า คพ. คาดการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดปริมณฑล และ 17 จังหวัดภาคเหนือพบว่า ฝุ่นละอองยังคงมีแนวโน้มสะสมตัวมากขึ้น ในช่วงระหว่างวันที่ 2 – 4 กุมภาพันธ์ 2566 เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่ง และปิด โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังสำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายลม และพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังสำหรับ 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ บริเวณภาคเหนือตอนบนและล่าง โดย คพ. ได้ประสานงานและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” รวมทั้งได้วิเคราะห์สถานการณ์ PM2.5 พร้อมกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ยกระดับมาตรการควบคุมแหล่งกำเนิด เช่น ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งอย่างเด็ดขาด ให้มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง และประสานสำนักเลขาธิการอาเซียน ให้ประเทศเพื่อนบ้านเร่งดำเนินการลดจุดความร้อน รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ ได้มีการเรียกประชุม War Room ยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในพื้นที่ภาคเหนือ
นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้บูรณาการความร่วมมือกับ กทม. อย่างใกล้ชิด ให้ยกระดับการดำเนินงานเน้นลดแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง อาทิ ให้มีการตรวจโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด การขอความร่วมมือบริษัทเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ ให้เจ้าหน้าที่ Work From Home เพื่อลดปริมาณการจราจรบนท้องถนนและเพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
สำหรับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ณ 07:00 น. ภาพรวมปริมาณฝุ่น PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.ลำพูน จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.ตาก จ.พิษณุโลก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.สุพรรณบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.บึงกาฬ จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา และ จ. บุรีรัมย์
ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ได้รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ สรุปดังนี้
- ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 34 – 154 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 29 – 96 มคก./ลบ.ม.
- ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 48 – 117 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐาน 4 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 32 – 79 มคก./ลบ.ม.
- ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10 – 25 มคก./ลบ.ม.
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 54 – 119 มคก./ลบ.ม.
กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 4 – 10 กุมภาพันธ์ 2566 ดังนี้
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่ง และปิด โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และใต้ (พื้นที่ท้ายลม) ส่วนพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานช่วง 7 – 8 กุมภาพันธ์ 2566 แต่ควรเฝ้าระวังบริเวณภาคเหนือตอนบนและล่าง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566
ทั้งนี้ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย
สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ และสามารถติดตามรายงานสถานการณ์ PM2.5 และคุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK