อีสท์ วอเตอร์โชว์ผลงานปี 2566 พร้อมเร่งก่อสร้างโครงการท่อส่งน้ำสายหลัก 3 โครงการ ความยาว526 กม. ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดใน EEC


อีสท์ วอเตอร์ โชว์ผลงานปี 2566 รายได้ใกล้เคียงปี 2565  แม้ว่าจะต้องส่งคืนท่อความยาวกว่า 130 กม. ให้กรมธนารักษ์ พร้อมเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำสายหลักทดแทน ท่อส่งน้ำเดิมทั้ง 3 โครงการ โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในระยะเวลาอันใกล้ หากก่อสร้างแล้วเสร็จความยาวของท่อส่งน้ำสายหลักประมาณ 526 กม. ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา  คาดปี 2567 ศักยภาพโครงข่ายท่อส่งน้ำดิบครอบคลุมพื้นที่ EEC  สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

เชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ขยายความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยในปี 2566 ลงนามสัญญาซื้อขายน้ำดิบ 2 โครงการ กับ บริษัท ซีจี คอร์เปอเรชั่น จำกัด ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี (CPGC) จ.ระยอง และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เพื่อใช้ในพื้นที่โครงการวังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง รวมถึงลงนามสัญญาซื้อขายน้ำอุตสาหกรรม 2 โครงการ กับบริษัท ซิน เคอ หยวน จำกัด ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ในจังหวัดระยอง และ บริษัท อมตะ วอเตอร์ จำกัด ให้บริการน้ำอุตสาหกรรมแก่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง 2

ในส่วนของความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำสายหลักทดแทน ท่อส่งน้ำเดิม ซึ่งการวางท่อส่งน้ำทั้ง 3 โครงการ จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในระยะเวลากันใกล้ เพื่อให้ส่งผลกระทบกับผู้ใช้น้ำของอีสท์ วอเตอร์น้อยที่สุด หากก่อสร้างแล้วเสร็จความยาวของท่อส่งน้ำสายหลักประมาณ 526 กม. ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา และยังมีแผนพัฒนาศักยภาพการสูบส่งน้ำไปยังพื้นที่อื่นๆ อีกด้วย โดยมีความคืบหน้าโครงการ ดังนี้

  1. โครงการท่อส่งน้ำดิบหนองปลาไหล – หนองค้อ – แหลมฉบัง ในพื้นที่จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรี สามารถรองรับการส่งน้ำได้ 350,000 ลบ/วัน มากกว่าเดิม ทำให้ส่งน้ำไปให้พื้นที่ชลบุรี ได้อย่างเพียงพอ เพื่อรองรับความต้องการน้ำที่เพิ่มขึ้นหรือในกรณีเกิดภัยแล้ง เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยังยืน ความยาวกว่า 57.1 กิโลเมตร โดยเชื่อมต่อกับท่อส่งน้ำสายหลักประแสร์ – หนองปลาไหลเดิมของอีสท์ วอเตอร์
  2. ครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบคลองหลวง จังหวัดชลบุรี เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทรมายังอ่างเก็บน้ำหนองค้อ แทนการผันน้ำผ่านคลองพานทอง ความยาวกว่า 49 กิโลเมตร โดยเชื่อมต่อจากท่อส่งน้ำสายหลักปลวกแดง – บ่อวิน ความคืบหน้าโครงการวางท่อแล้วเสร็จ 42 กิโลเมตร ในส่วนที่เหลืออีก 7 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการขออนุญาตให้วางท่อในพื้นที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่ง อีสท์ วอเตอร์พร้อมดำเนินการ
  3. โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบมาบตาพุต-สัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพิ่มศักยภาพในการส่งน้ำให้แก่ภาคอุปโภค บริโภค และท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ความยาวกว่า 27 กิโลเมตร โดยเชื่อมต่อระบบท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-มาบตาพุด เส้นที่ 2

เชิดชาย  กล่าวว่า นอกจากให้บริการโครงการระบบท่อส่งน้ำ  ธุรกิจน้ำดิบ ธุรกิจน้ำประปา และธุรกิจน้ำอุตสาหกรรมแล้ว ปัจจุบันบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจน้ำรีไซเคิล  โดยนำน้ำเสียที่ได้ค่าตามมาตรฐานน้ำทิ้งมาผ่านการบำบัดโดยใช้ Membrane ตกตะกอน และระบบ Reverse Osmosis (R.O.)  เพื่ิอให้ได้น้ำที่มีคุณภาพที่ใสและสะอาด  ขณะนี้เริ่มทำแล้วที่อาคารอีสท์ วอเตอร์ และบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน)  โรงงานที่จ.อยุธยา และจ.ราชบุรี รวมทั้งสนามบินอู่ตะเภาในส่วนของน้ำดิบ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนตามแนวคิด ESG  (Environment, Social, Governance )

ด้านสมบัติ อยู่สามารถ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงินและบัญชี บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 บริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ มูลค่ารวม 2,900 ล้านบาท ซึ่งขายดีเกินคาด และมีแผนจะออกหุ้นกู้ชุดใหม่ในระยะเวลาอันใกล้ตามความต้องการของนักลงทุน เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่ออีสท์ วอเตอร์ในฐานะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีโครงข่ายท่อส่งน้ำในเขตพื้นที่ EEC และมีประสบการณ์ที่ยาวนาน โดยวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ จะนำไปใช้ในโครงการระบบท่อส่งน้ำ ธุรกิจน้ำดิบ และธุรกิจน้ำอุตสาหกรรม

ถึงแม้ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันเป็นระดับ “A” พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จากเดิมที่ระดับ “A+” และแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” เนื่องจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. ไม่สามารถต่อสัญญาเช่าระบบท่อส่งน้ำของกรมธนารักษ์ได้ และ2. ลงทุนพัฒนาระบบท่อส่งน้ำทดแทนของกรมธนารักษ์ ทั้งนี้การลงทุนวางท่อส่งน้ำทดแทนเป็นสิ่งที่อีสท์ วอเตอร์มุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพท่อส่งน้ำสายหลัก ให้กลับเป็น Water Grid ที่สมบูรณ์และสามารถบรรเทาปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืนได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตที่ระดับ “A” นั้น ยังคงสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของอีสท์ วอเตอร์ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการหลักซึ่งมีโครงข่ายท่อส่งน้ำดิบครอบคลุมในเขตพื้นที่ EEC ตลอดจนกระแสเงินสดที่แน่นอน และความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง   ทั้นี้ รายได้ของบริษัทฯ ในปี 2566  ใกล้เคียงกับปี 2565  แม้ว่าจะต้องส่งมอบท่อให้กรมธนารักษ์ความยาวกว่า 130 กม.

“สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2567 อีสท์ วอเตอร์ยังคงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในการสร้างความมั่นคงของการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำครบวงจรของประเทศด้วยสมาร์ทเทคโนโลยี ให้ความสำคัญกับผู้ใช้น้ำเป็นหลัก และจะสามารถสร้าง Water Grid ที่มั่นคง และแข็งแกร่งที่สุดในภาคตะวันออก รองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ EEC สร้างการเติบโต และแข็งแกร่งให้แก่พื้นที่ภาคตะวันออกอย่างยั่งยืนตลอดไป” เชิดชาย กล่าวทิ้งท้าย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save