บริษัท เจ-เซเว่น เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่าย และติดตั้งงานวิศวกรรมระบบน้ำร้อน ประปา ปรับอากาศ และระบบประหยัดพลังงาน โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท Rheem Manufacturing Inc. USA ผู้ผลิตเครื่องทำน้ำร้อน ภายใต้แบรนด์ Rheem ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำอันดับที่ 1 ที่แพร่หลายและได้รับและได้รับความเชื่อถือจากวิศวกรระบบน้ำร้อนทั่วโลกด้วยระบบทำน้ำร้อนแบบหม้อต้ม (Staring Water Heaters and Hot Water Boiler) โดยจำหน่ายและติดตั้งระบบน้ำร้อนดังกล่าวให้กับโรงแรมต่างๆในประเทศไทยที่ผ่านมา
นวัตกรรมเครื่องทำน้ำร้อนฮีมปั้มประหยัดพลังงาน
วีระชัย จีระนันตสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ-เซเว่น เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด กล่าวว่า ระบบเครื่องทำน้ำร้อน ระบบฮีทปั๊ม ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ในต่างประเทศ แต่ในเมืองไทยยังไม่มีใครออกแบบหรือผลิตเพื่อนำมาใช้ บริษัทฯจึงมีแนวคิดออกแบบและผลิตเครื่องทำน้ำร้อนระบบประหยัดพลังงาน “Energy Saving Technology” เป็นแห่งแรกในประเทศไทย และจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “Ecotech” (EcoTechHeat Pump) โดย Heat Pump หรือปั้มความร้อน นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ดึงเอาพลังงานความร้อนจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นอากาศรอบตัวเรา ที่เรียกว่า Renewable Energy ที่นับว่าเป็นพลังงานที่ฟรีเช่นเดียวกับพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีหลักการคือการนำพลังงานความร้อนของอากาศมาใช้ประโยชน์เพื่อเป็นแหล่งพลังงานป้อนให้กับ Heat Pump และเมื่อนำเอาความร้อนจากอากาศมาใช้ ผลพลอยได้ของระบบปั้มความร้อนคือการคืนลมเย็นออกสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้บรรยากาศภายนอกเย็นลง ทั้งยังไม่มีการปล่อย CO2 ออกสู่ภายนอก ตลอดจนช่วยประหยัดพลังงานและลดต้นทุนการผลิตน้ำร้อนได้มากกว่า 70% เมื่อเทียบกับเครื่องทำน้ำร้อนไฟฟ้าทั่วไป
“เครื่องทำน้ำร้อน Ecotech จะดึงพลังงานความร้อนจากรอบตัวที่มีอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยประมาณ 35 องศาเซลเซียสเข้าสู่ภายในเครื่องปั้ม สามารถผลิตน้ำร้อนได้ที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เมื่อคายความร้อนไปให้กับน้ำแล้ว อากาศจะคืนกลับออกมาสู่สิ่งแวดล้อมกลายเป็นลมเย็น ดังนั้นเมื่อนำเครื่องทำน้ำร้อนชนิดนี้ไปติดตั้งที่ใดก็ตาม จะทำให้โลกเย็นลง ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและยังใช้พลังงานการผลิตน้ำร้อนเพียง 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับเครื่องทำน้ำร้อนทั่วไป”
Ecotech ผ่านมาตรฐานฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงเบอร์ 5
วีระชัย กล่าวว่า หลังจากการพัฒนาและต่อยอดให้นวัตกรรมประหยัดพลังงานแล้ว เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวประหยัดพลังงานได้จริง จำเป็นต้องมีมาตรฐานรับรองว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้น เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้ริเริ่มโครงการทดสอบเทคโนโลยี Heat Pump โดยมีการสร้างห้องทดสอบที่มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรีขึ้นมา เพื่อส่งสินค้าของบริษัทฯซึ่งได้รับการพัฒนามาโดยตลอดเข้าไปทดสอบ สำหรับเทคโนโลยีที่จะผ่านเกณฑ์มาตรฐานการประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงเบอร์ 5 ซึ่งออกโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงานนั้น จะต้องมีความสามารถในการประหยัดพลังงานมากกว่าการใช้พลังงานไฟฟ้ากว่า 3 เท่า
ในปี 2559 Heat Pump ภายใต้แบรนด์ Ecotech ได้มาตรฐานจากโรงงานเพียงบริษัทเดียวและเป็นบริษัทแรกในประเทศไทย โดยกระทรวงพลังงานมองเห็นว่าเทคโนโลยีนี้เป็นประโยชน์และสามารถประหยัดพลังงานให้กับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ จึงได้รับรองมาตรฐานการประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงเบอร์ 5 นั่นหมายความว่าเทคโนยีลีดังกล่าวจะต้องมีค่า COD หรืนค่าประสิทธิภาพความร้อนมากกว่า 3 จึงได้ได้รับฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงเบอร์ 5
ตั้งเป้าเติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมรุกตลาดตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศ
วีระชัย กล่าวว่า บริษัทฯได้พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่มาโดยตลอด ดังนั้นในปีนี้จึงเป้าหมายการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยขยายเข้าไปในกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และเนื่องจากบริษัทฯมีการจำหน่ายเข้าไปในกลุ่มประเทศ CLMV จึงได้ตั้งเป้าขยายตัวแทนจำหน่ายไปต่างประเทศ อาทิ ประเทศพม่า กัมพูชา และประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งอุตสาหกรรมโรงแรมกำลังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และระบบฮีทปั้มนี้ยังเป็นระบบที่สามารถส่งไปติดตั้งให้กับลูกค้าในแต่ละพื้นที่หรือในแต่ละประเทศให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น พม่าเป็นประเทศที่ ณ ขณะนี้ ขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างมาก หากนำระบบนี้เข้าไปใช้ จะช่วยมีการใช้พลังงานในปริมาณที่น้อยลง ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีแผนในการประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ หรือทำการตลาดโดยตรงกับกลุ่มลูกค้า และในขณะเดียวกันก็มีการบอกต่อของลูกค้าหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ จึงมั่นใจได้ในจุดเด่นของ เจ- เซเว่น คือเป็นบริษัทที่เติบโตด้วยนวัตกรรม มีองค์ความรู้ของตัวเอง ประกอบกับจรรยาบรรณความรับผิดชอบต่อตัวสินค้าและลูกค้าที่เป็นนโยบายหลักขององค์กร
ปัจจุบัน เครื่องทำน้ำร้อนแบบฮีมปั้ม Ecotech มีส่วนแบ่งในตลาดเครื่องทำน้ำร้อนประเภทนี้มากกว่า 50% โดยกลุ่มลูกค้าประมาณ 80-90% เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรมและโรงพยาบาล ที่เหลือกระจายอยู่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อาทิ รีสอร์ท คลับเฮาส์ สปา สระว่ายน้ำ ภัตตาคาร ระบบซักรีด และอุตสาหกรรมทั่วไป เนื่องจากเทคโนโลยีของปั้มความร้อนหรือฮีทปั้ม มีขีดความสามารถในการทำอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 60 องศาเซลเซียส จึงนิยมใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และอนาคตบริษัทฯ เตรียมจะขยายไปในกลุ่มครัวเรือน ซึ่งนอกจากนี้บริษัทฯยังได้ตังเป้าความสำเร็จเติบโตแบบยั่งยืน ด้วยการสร้างนวัตกรรมเพื่อให้สังคมได้ประโยชน์ร่วมกัน จนสามารถเข้าสู่การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไปในอนาคต วีระชัย กล่าวเพิ่มเติม
“เนื่องจากเราก็เป็นบริษัทแรกใบนประเทศไทยที่เราผลิตโดยคนไทยเอง เล็งเห็นว่าภายใต้เทคโนโลยีปั๊มความร้อน น่าจะต่อยอดไปใช้ในการทำอย่างอื่นได้นอกจากความร้อน นำรูปแบบการประหยัดพลังงานไปใช้ในกลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้บริโภคที่เป็น SMEs ให้ใช้ประโยชน์ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ต่อไปจะมีการวิจัยและนำมาผลิตเพื่อจะสู่ผู้บริโภคในอนาคต”
อีทปั้มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
วีระชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ บริษัทฯได้เก็บข้อมูลย้อนหลัง 4 ปี พบว่าการติดตั้งระบบฮีทปั้มสามารถประหยัดพลังงานได้กว่า 300 ล้านกิโลวัตต์ ลดการปลดปล่อย CO2 200 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ส่วนแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มองว่าบริษัทเราทำธุรกิจประหยัดพลังงาน ซึ่งแน่นอนว่าต้องดำเนินการควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อม และภายใต้เป้าหมายที่ต้องดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน ด้วยการต่อยอดการดำเนินธุรกิจในลักษณะเช่นนี้ไปพร้อมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ที่จะเสริมสร้างสังคมนี้ให้ประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น มีสิ่งแวดล้อมที่ดี และเพื่อลูกค้า สังคม และโลกใบนี้ได้รับประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนี้ ในบางโครงการที่ต้องการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้เกิดประหยัดพลังงานสูงสุดนั้น แต่มีข้อจำกัดในพื้นที่ติดตั้ง หรือสภาวะภูมิอากาศที่แปรปรวน ระบบฮีทปั้มได้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ที่ต้องการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ควบคู่กับการติดตั้งฮีทปั้ม เรียกว่า ไฮบริด เนื่องด้วยระบบฮีทปั้มสามารถผลิตน้ำร้อนได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่ฝนตกหรือแดดออก ในขณะที่พลังงานจากแสงอาทิตย์สามารถผลิตพลังงานได้เฉพาะกลางวันเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นเมื่อสองระบบนี้ทำงานประสานกัน ระบบประหยัดพลังงานจะสมบูรณ์แบบมากขึ้น แต่ระบบไฮบริดนี้ต้องอาศัยการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่มีความเชี่ยวชาญ ฉะนั้นบริษัทฯเราสามารถตอบสนองความต้องการนี้ให้แก่ลูกค้าได้
“มองว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า วงการอุตสาหกรรมโรงงานจะปรับเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีฮีทปั๊มกันมากขึ้น สิ่งที่คาดหวังคือ ทุกโรงงานที่ใช้หม้อต้มไอน้ำ (Steam boiler) หรือใช้เชื้อเพลิงที่เผาไหม้แล้วเกิด CO2 ต้องสามารถลดการเกิดการเผาไหม้ CO2 ให้กับสิ่งแวดล้อม เราทำเรื่องนี้สำเร็จแล้วในอุตสาหกรรมโรงแรม ที่ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบฮีมปั้มเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นเชื่อมั่นว่าในอุตสาหกรรมกลุ่มโรงงานควรจะเดินไปตามแนวทางเดียวกัน เพื่อโลกของเราที่น่าอยู่ขึ้น”