โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ฝันของชุมชนภาค เกษตรกำลังจะเป็นจริง ใช้เวลาเกือบ 2 ปีกว่าจะมีกำหนดคลอด ถึงแม้ จะต้องขับเคี่ยวกันเองเพื่อเข้าสู่เส้นชัยด้วยวิธี Bidding ก็ตาม นาทีนี้พลังงานสีเขียวมาแรงตามกระแสโลก ผู้บริหารพลังงานที่ชื่นชอบในพลังงานจากซากดึกดำบรรพ์จึงเก็บตัวเงียบอยู่ ปัจจัยสู่ความสำเร็จของโรงไฟฟ้าชุมชนประการหนึ่งก็คือ วิสาหกิจชุมชน หลายๆ โครงการต้องล้มเลิกอันเนื่องมาจากความไม่เข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชน ถ้าจะกล่าวถึง ความท้าทายของโรงไฟฟ้าชุมชนแล้ว คงอยู่ที่การทำงานร่วมกันของเอกชนผู้ลงทุนและเกษตรกรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน ซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะต้องร่วมงานกันผลิตไฟฟ้าขายภาครัฐยาวนานถึง 20 ปี ส่วนความท้าทายด้านเทคโนโลยีก็คงเป็นเรื่องของการพัฒนาพันธุ์พืชและเทคโนโลยี ทั้งด้านการเผา (BIOMASS) และการหมักแบบไร้อากาศ (BIOGAS)
1. ด้านเชื้อเพลิง
1.1 BIOGAS คาดว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ใช้หญ้าในตระกูลเนเปียร์เป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์ในประเทศไทย บางสายพันธุ์ก็เกิดจากการตั้งชื่อเพื่อการตลาด แต่ที่เป็นคู่เปรียบเทียบกัน เหมือนมวยคู่เอกก็คือ “ปากช่อง 1” ที่เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ โดยกรมปศุสัตว์ และ “เขียวสยาม” ซึ่งเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์โดยอาจารย์มหาวิทยาลัยและออกสู่ตลาดในหลายๆ ชื่อ เช่น เขียวสยาม รากแก้ว สุวรรณภูมิ นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์อื่นๆ ที่อาจนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พันธุ์ไต้หวัน จินเฉ่า อาลาฟัล นรกจักรพรรดิ จากการตรวจสอบเชิงลึก เนเปียร์แต่ละสายพันธุ์สามารถใช้เป็นวัตถุดิบหมักก๊าซชีวภาพผลิตไฟฟ้าได้ไม่ต่างกันจนมีนัยสำคัญ ขึ้นอยู่กับการ เลือกใช้ประโยชน์ในช่วงแต่ละอายุ ซึ่งหญ้าจะมีโปรตีนและน้ำตาลแตกต่าง กันไป ขึ้นอยู่กับดินและวิธีการปลูก การดูแล รวมทั้งภูมิอากาศที่แตกต่างกัน จะขอสรุปว่า พันธุ์ไหนก็ไม่แตกต่างกันมาก สำหรับ Yield ของหญ้าเนเปียร์ จากหลายๆ สำนักจะมาลงตัวที่ 40-70 ตันต่อไร่ต่อปีที่อายุ 90 วัน เพื่อใช้ หมักก๊าซชีวภาพ ซึ่งโดยปกติ Crop แรกของเนเปียร์จะมี Yield ค่อนข้างต่ำ
![หญ้ายักษ์เนเปียร์ปากช่อง 1หญ้ายักษ์เนเปียร์ปากช่อง 1](https://www.greennetworkthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/Pakchong-1-Napier-Grass.jpg)
1.2 BIOMASS เชื้อเพลิงชีวมวลกลายมาเป็นเรื่องปราบเซียน จากที่เคยใช้ไม้สับจากแหล่งไหนไม่ต้องรับรู้ กลายมาเป็นพืชปลูก ซึ่ง อาจมีราคาสูงกว่าไม้สับทั่วไป โดยปกติราคาไม้สับขึ้นๆ ลงๆ และสูงต่ำขึ้นอยู่กับอุปสงค์อุปทาน พื้นที่ใดมีโรงไฟฟ้าชีวมวลมาก ราคาไม้สับก็จะ สูง เมื่อโจทย์ใหม่เป็นพืชปลูก และยังให้คำนวณพื้นที่ปลูกที่สอดคล้องกับ ปริมาณไฟฟ้าที่จำหน่ายด้วยแล้ว คงมีพืชไม่กี่ชนิดที่โตเร็ว ค่าความร้อนสูง ความชื้นต่ำ เก็บเกี่ยวง่าย พืชที่ได้รับการกล่าวขานและเป็นตัวเลือก ได้แก่ กระถิน ไผ่ รวมทั้งเนเปียร์ที่อายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน
![กระถินยักษ์](https://www.greennetworkthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/Lead-Tree-Biomass.jpg)
กระถิน มีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งเหมาะกับพื้นที่ที่แตกต่างกัน
- Acacia กลุ่มของกระถินเทพา กระถินณรงค์/กระถินลูกผสม (เทพา+ณรงค์ เหมาะกับการปลูกในภาคใต้และภาคตะวันออก ที่มีความชื้นสูง)
- Leucaena กระถินยักษ์ เหมาะสำหรับการปลูกในภาค ตะวันตก ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือตอนล่าง โดยปกติค่าความร้อนเฉลี่ยของกระถิน (LHV) ประมาณ 4,000 kcal/kg ส่วนความชื้นเมื่อเป็นไม้สับ ประมาณ 45%
ไผ่ มีกว่า 10 สายพันธุ์ที่ปลูกกระจายทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวล กูรูหลายท่านยังเลือกปลูกไผ่รวกใหญ่ ซึ่งมีน้ำหนักดี ค่าความร้อนสูง เก็บเกี่ยวง่าย และค่าขนย้ายประหยัดพื้นที่กว่าไผ่ที่มีลำต้นใหญ่
เนเปียร์ บางสายพันธุ์ของเนเปียร์เมื่ออายุ 5 เดือนขึ้นไป จะมีค่า ความร้อนสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ 10-15% จนเป็นที่ต้องตาต้องใจของโรงไฟฟ้าชีวมวล แต่เมื่อความชื้นของเนเปียร์เฉลี่ยสูงถึง 65% และมีน้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับไผ่และกระถิน เนเปียร์จึงยังเป็นทางเลือกที่ท้าทาย นักเทคโนโลยีอยู่
2. ด้านเทคโนโลยี
2.1 BIOGAS เป็นเทคโนโลยีที่เริ่มมีใช้ในประเทศไทยมากว่า 30 ปี เริ่มจากภูมิปัญญาชาวบ้าน การนำเข้าเทคโนโลยี และ “ครูพักลักจำ” กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้ส่งเสริมให้โรงงานประเภทต่างๆ กว่า 500 โรง ผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย โดยอุดหนุนค่าใช้จ่ายบางส่วน ได้ใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 3,500 ล้านบาท โดยเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551-พ.ศ. 2555 ตั้งแต่นั้นมาเทคโนโลยี Biogas ก็กลายเป็นที่รู้จักและแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน
เทคโนโลยี Biogas คนไทยหลายคนยังเข้าใจว่า ถ้าทุ่มงบประมาณซื้อเทคโนโลยีดังๆ แพงๆ Yield แก๊สก็จะสูง แต่สำหรับ Biogas แล้ว การเตรียมวัตถุดิบหรือเชื้อเพลิง และความเข้าใจในการทำงานของจุลินทรีย์นั้น มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าระบบการทำงานของเครื่องจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Biogas ที่มีวัตถุดิบหลายๆ ชนิดในถังหมักเดียวกัน โดยที่ระยะเวลาการย่อยสลายก็แตกต่างกัน ยิ่งการผลิตแก๊สจากหญ้า เนเปียร์ด้วยแล้ว ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบทั้งความหวานและโปรตีน ซึ่ง ยิ่งมากยิ่งดี ส่วนค่า C/N Ratio (คาร์บอนต่อไนโตรเจน) ซึ่งเป็นตัวบอกว่า วัตถุดิบนั้นย่อยสลายง่ายหรือยาก มีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นระบบ ไบโอแก๊สไม่ว่าจะเป็น Thermophilie หรือ Medophilie ล้วนจ ำเป็นปรับปรุงคุณภาพของวัตถุดิบก่อนนำเข้าถังหมักทุกครั้ง
2.2 BIOMASS เทคโนโลยี โรงไฟฟ้าชีวมวลดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้สร้างโรงไฟฟ้า โดยปกติถ้าต้องการประสิทธิภาพสูง คือ ใช้เชื้อเพลิงน้อย มลพิษต่ำ ราคาก็อาจจะสูง แต่สำหรับโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อ เศรษฐกิจฐานรากอาจมีคำถามมากกว่านั้น ก็คือ เป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 3 เมกะวัตต์ ซึ่งหาดู ได้ยากในประเทศไทย เนื่องจากมีราคาไม่แตกต่าง กับโรงไฟฟ้าขนาด 6-7 เมกะวัตต์ มากนัก และประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าก็ต่ำกว่า
แต่เมื่อโจทย์เป็นโรงไฟฟ้าระดับชุมชนและต้องประมูลแข่งขันด้านราคา จึงเป็นงานท้าทายผู้ผลิตอุปกรณ์และผู้สร้างโรงไฟฟ้าอย่างยิ่ง ผู้เขียนหวังว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยี โรงไฟฟ้าขนาดเล็กนี้ให้สามารถประหยัดเชื้อเพลิง มลพิษต่ำ และรองรับเชื้อเพลิงหลากหลายที่มีความชื้นค่อนข้างสูงได้ดี และราคาแข่งขันได้ คือ ถูกและดี
กว่าท่านจะได้อ่านบทความนี้ อาจจะได้ทราบแล้วว่า บริษัทใดได้รับคัดเลือกบ้าง การ Bidding แข่งขันราคามีข้อดี คือ รัฐซื้อไฟฟ้าได้ในราคาถูก แต่ยังมีข้อกังวลว่าจะได้โรงไฟฟ้า ที่มีมาตรฐานขั้นต่ำ ชุมชนได้ประโยชน์ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และปิดโอกาสบริษัทเล็กๆ หรือบริษัทในท้องถิ่น แต่เมื่อ Ranking 1-5 แล้ว โรงไฟฟ้าชุมชนยังได้คะแนนไม่น้อยกว่า 4 คะแนน ในฐานะที่ใช้พลังงานกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรมโครงการแรกของประเทศไทย
Source: นิตยสาร Green Network ฉบับที่ 103 มกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 คอลัมน์ Energy โดย พิชัย ถิ่นสันติสุข